EXIM BANK หนุนผู้ประกอบการไทยตามเทรนด์โลก

16 ธ.ค. 2564 | 18:34 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ธ.ค. 2564 | 01:34 น.

EXIM BANK ชี้ธุรกิจไทยต้องเติบโตอย่างยั่งยืน ตามกระแสโลกด้านสิ่งแวดล้อม โลกดิจิทัล และสุขภาพ พร้อมบริการตอบโจทย์ปรับปรุงกระบวนการผลิตและการพัฒนาสินค้า รวมถึงช่องทางการค้าออนไลน์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุค Next Normal

ดร.พสุ โลหารชุน ประธานกรรมการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(EXIM BANK)เปิดเผยว่า ธนาคารฯ พร้อมสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการโดยเฉพาะอย่างยิ่ง SMEs ให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน  เนื่องจากความยั่งยืนเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาคนและโลกในอนาคต ทั้งในแง่มุมของทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรมนุษย์ และทรัพยากรทางสังคม ภาคธุรกิจจึงต้องให้ความใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการเติบโตของธุรกิจด้วย 

EXIM BANK หนุนผู้ประกอบการไทยตามเทรนด์โลก

 

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANKกล่าวว่า ทางรอดของธุรกิจในโลกยุค Next Normal คือ การเชื่อมโยงธุรกิจและผลิตสินค้าที่สร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล และการดูแลรักษาสุขภาพของประชากรโลก เช่น การดำเนินธุรกิจที่ลดการปล่อยมลพิษ การใช้แพลตฟอร์มการค้าออนไลน์เป็นช่องทางส่งออกสินค้า ซึ่งคาดว่า ภายในปี 2568 ประชากรของโลกจะซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์จำนวนสูงถึง 60% 

EXIM BANK หนุนผู้ประกอบการไทยตามเทรนด์โลก

ขณะที่การบริโภคสินค้าอาหาร เพื่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารออร์แกนิก (Organic Food) อาหารจากพืชผัก (Plant-based Food) และอาหารฟังก์ชัน (Functional Food) ที่มีสารประกอบในอาหารทำหน้าที่พิเศษกว่าการให้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย จะมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น 10-15% ต่อปี ภายในปี 2570 เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่สิ้นสุด 

 

ขณะที่รัฐบาลในหลายประเทศเริ่มกำหนดกฎระเบียบและมาตรการทางการค้าระหว่างประเทศที่เชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เหล่านี้ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งปรับตัวทางธุรกิจให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและสอดคล้องกับกฎระเบียบ มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ และความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ 

ทั้งนี้สมการธุรกิจโตยั่งยืน จะเป็นสูตรสำเร็จที่ช่วยให้ธุรกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย 3 ตัวแปร ได้แก่

 

  1. การสร้างโมเดลธุรกิจโตยั่งยืน (Sustainable Business Model) โดยคำนึงทุกคนรอบข้าง โลก และผลกำไรที่ยั่งยืน (People, Planet, Profit) 
  2. การดำเนินธุรกิจที่สอดรับกับเทรนด์แห่งอนาคต (Future Trends) โดยการประยุกต์เทรนด์ GDH เข้ากับสินค้า บริการ และกระบวนการผลิต หรือแตกไลน์ธุรกิจใหม่ เพื่อตอบสนองเทรนด์ดังกล่าว
  3. พันธมิตรทางธุรกิจ ได้แก่ EXIM BANK และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ จะช่วยเติมเต็มช่องว่างทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทยได้อย่างครบวงจร 

 

ทั้งนี้ EXIM BANK มีบริการที่ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการปรับธุรกิจเพื่อเปลี่ยนไปสู่ความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านสินเชื่อ อาทิ EXIM Biz Transformation Loan สนับสนุนผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนเพิ่มเพื่อยกระดับประสิทธิภาพและกระบวนการผลิต ขยายกำลังการผลิต รวมทั้งปรับปรุงซอฟต์แวร์ดิจิทัล อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 2% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 100 ล้านบาท ผ่อนชำระนานสูงสุด 7 ปี 

 

สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อ EEC และเครือข่ายนิคมอุตสาหกรรม สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนในพื้นที่ EEC (ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง) รวมทั้งนิคมอุตสาหกรรม หรือเขตเศรษฐกิจพิเศษ อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 3% ต่อปี ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี และบริการอื่น ๆ อาทิ เครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ และการอบรมให้ความรู้ด้านการส่งออกและการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน 

 

EXIM BANK ยังพร้อมสนับสนุนการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจให้แข็งแรง เพื่อเตรียมความพร้อมในการปรับตัวทางธุรกิจให้ทันกระแสโลกการค้ายุคใหม่

 

“ยุค Next Normal การปรับตัวเพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่ความยั่งยืนมิได้เป็นทางเลือก แต่เป็นทางรอดของทุกธุรกิจ โดย EXIM BANK พร้อมร่วมมือกับพันธมิตร รวมถึงลูกค้าผู้ประกอบการที่มีความพร้อมในการปรับตัวได้เร็ว เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะ SMEs ให้เข้าสู่ Supply Chain ของการส่งออกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยมาตรฐานการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยตอบสนองกับกระแสโลกยุคใหม่ และเติมเต็มการพัฒนาของโลกอย่างยั่งยืน”ดร.รักษ์กล่าว