‘เอ็กซ์สปริง’ รุกเต็มสูบ ตลาดโทเคนดิจิทัล

28 ก.ย. 2564 | 18:40 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ย. 2564 | 01:41 น.

เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล” เปิดจองซื้อ “SiriHub Token” ICO รายแรกของไทย มูลค่ารวม 2,400 ล้านบาท ผลตอบแทน 8% พร้อมเดินหน้าขอใบอนุญาตนายหน้าและผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลต่อเนื่อง ตั้งเป้าภายใน 5 ปีเป็น “One Stop Financial Services”

 เปิดจองซื้อไปแล้วเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2564 กับ “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ” (SiriHub Investment Token) ที่เป็นการระดมทุนด้วยการเสนอขายดิจิทัลโทเคน (ICO) รายแรกในไทย ของบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด(มหาชน) ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

 

“สิริฮับ” เป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่อ้างอิงกระแสรายรับจาก “สิริ แคมปัส” สำนักงานใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์อ้างอิง (Real Estate-backed ICO)

 

นายอัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัดเปิดเผยว่า ภาพรวมการเปิดขายสิริฮับ โทเคนวันแรกน่าพอใจมาก จากการได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่ให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตของสิริฮับ โทเคนในอนาคตอย่างล้นหลาม โดยมีนักลงทุนแสดงความจำนงเข้าลงทุนเกินความคาดหมาย เมื่อเทียบกับแผนการเสนอขายที่วางไว้ ทำให้มั่นใจว่าจะขายครบจำนวน 2,400 ล้านบาทได้ก่อนปิดการขายในวันที่ 4 ตุลาคมนี้อย่างแน่นอน

 

  นายอัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด

 

ทั้งนี้ SiriHub Investment Token เกิดจากการนำกระแสรายรับจากค่าเช่าของอาคารสำนักงานสิริ แคมปัส ในโครงการ T77 สุขุมวิท มาแปลงหน่วยเป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) โดยกำหนดมูลค่าการระดมทุนรวมที่ 2,400 ล้านบาท นักลงทุนจะได้รับผลประโยชน์ตามที่ระบุไว้บนสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract)

 

“สิริฮับ” จะแบ่งเสนอขายเป็น 2 กลุ่มคือ สิริฮับ A (SiriHubA) มูลค่าการระดมทุน 1,600 ล้านบาท ส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสไม่เกิน 4.5% ต่อปี และ สิริฮับ B (SiriHubB) มูลค่าการระดมทุน 800 ล้านบาท ส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสไม่เกิน 8% ต่อปี และทั้งสองกลุ่มจะได้รับส่วนแบ่งจากการจำหน่ายทรัพย์สินเมื่อสิ้นสุดโครงการ

“ผลตอบรับครั้งนี้  ตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่สนใจและมองเห็นโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการออมเงินและมองหาการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในปัจจุบัน”นายอัฏฐ์กล่าว

 

นอกจากนั้น ยังมีนักลงทุนที่ต้องการย้ายที่พักเงินพร้อมรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ หลังจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากลดวงเงินคุ้มครองเหลือ 1 ล้านบาทเมื่อเร็วๆนี้ ยิ่งทำให้ความสนใจจองโทเคนเพื่อการลงทุนทั้ง SiriHubA และ SiriHubB เข้ามาจำนวนมาก เนื่องจากส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสที่สูงสุดถึง 4.5% และ 8% ต่อปี ประกอบกับอายุโครงการเพียง 4 ปีเท่านั้น

 

ส่วนขั้นตอนการจองซื้อและเสนอขาย จะเสนอขาย SiriHubA จำนวน 160 ล้านโทเคน ส่วน SiriHubB จำนวน 80 ล้านโทเคน รวม 240 ล้านโทเคน ที่ราคาโทเคนละ 10 บาท โดยเปิดให้จองซื้อผ่านแอปพลิเคชัน “XSpring” บนสมาร์ทโฟนได้ตลอด 24 ชม.

 

ขณะเดียวกัน ยังมีบริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด (ERX) เป็นผู้ช่วยในการจัดจำหน่ายโทเคนดิจิทัลของผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล ซึ่ง ERX ได้มอบหมายให้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) อีก 4 แห่ง ได้แก่ บล. เคทีบีเอสที, บล.ฟินันเซีย ไซรัส, บล. กรุงไทย ซีมิโก้ และ บล.เอเซีย พลัส เป็นผู้ช่วยในการขาย และจะใช้วิธีจัดสรรตามลำดับการชำระเงินสำเร็จของผู้ลงทุนแต่ละราย (First come first served)

ทั้งนี้ เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ขอย้ำว่า นักลงทุนทุกกลุ่มมีโอกาสในการจองซื้อเท่าเทียมกันด้วยการจัดสรรโทเคนตามลำดับการชำระเงินสำเร็จ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถจองซื้อสิริฮับ โทเคนได้จนกว่าโทเคนจะหมด ซึ่งขณะนี้ยังมียอดจองเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่า จะขายครบจำนวน 240 ล้านโทเคนได้ก่อนปิดการขายในวันที่ 4 ตุลาคมนี้อย่างแน่นอน

 

“เอ็กซ์สปริง ดิจิทัลต้องขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจและเชื่อมั่นในการลงทุนครั้งประวัติศาสตร์กับ “สิริฮับ โทเคน” พร้อมร่วมเติบโตและสร้างความมั่งคั่งไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” นายอัฏฐ์กล่าว

 

สำหรับแผนธุรกิจของเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับลูกค้าธุรกิจที่ต้องการระดมทุนในรูปแบบโทเคนดิจิทัลประมาณ 10 ราย ทั้งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสาหกรรมพลังงาน และกลุ่มเอ็นเตอร์เทนเม้นต์

 

ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างยื่นขอใบอนุญาตนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker)และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Dealer)เพื่อเป้าหมายในอีก 3-5 ปีข้างหน้า สู่การเป็น “One Stop Financial Services” โดยคาดว่า จะได้รับใบอนุญาตภายในปีนี้ ทำให้สามารถไปเชื่อมกับ Exchange ทั้งในและต่างประเทศ สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทแม่คือ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (XPG)

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,717 วันที่ 26 - 29 กันยายน พ.ศ. 2564