CGS มอง SET ปรับฐาน แนะสะสมหุ้น Domestic

21 มิ.ย. 2564 | 13:35 น.

CGS มอง SET อาจมีจังหวะของการปรับฐาน แนะใช้เป็นโอกาสสะสม หุ้น Domestic ทั้ง ค้าปลีก รถไฟฟ้า ธนาคาร สื่อนอกบ้าน ศูนย์การค้า จากทยอยเปิดเมืองช่วงครึ่งปีหลัง

บริษัทหลักทรัพย์(บล.) คันทรี่ กรุ๊ป  หรือ CGS  ระบุว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุม FED เราพบว่า US Bond Yield อายุยาว (10 20 30 ปี) ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยยะ ขณะที่ US Bond Yield อายุสั้นปรับขึ้น การปรับตัวขึ้นของ US Bond Yield อายุสั้นเชื่อว่า เป็นการปรับตามนโยบายดอกเบี้ยของ FED แต่การปรับลงของอายุยาว เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความคาดหวังเงินเฟ้อของตลาดรวมถึงมุมมองด้านเศรษฐกิจของตลาดในอนาคตที่เป็นลบ ซึ่งสอดคล้องกับความคาดหวังเงินเฟ้อสหรัฐ 10 ปีจากนี้ที่ปรับตัวลงอย่างมีนัย

 

ดังนั้นกลุ่มที่เป็นตัวป้องกันเงินเฟ้ออย่างพวก Commodity มีโอกาสที่จะเห็นการปรับฐานได้ สอดคล้องกับราคา Commodity หลายตัวที่เริ่มปรับฐานลงมา เช่น กากถั่วเหลือง ทองคำ ทองแดง อย่างไรก็ตาม จะเป็นบวกกับหุ้นที่มีต้นทุน เป็น Commodity อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ (HANA KCE) เลี้ยงสัตว์ (CPF GFPT TFG)

 

ส่วนปัจจัยในประเทศ ความคืบหน้าของการเปิดประเทศยังคงเข้ามาต่อเนื่อง วานนี้(20 มิ.ย.64) นายกได้โพสต์ข้อความลง FB ใจความว่า การเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้ โดยไม่มีเงื่อนไขยุ่งยากจนเกินไปในช่วง ต.ค. จะยังคงดำเนินต่อไป รวมไปถึงทาง กทม. ได้อนุญาตให้ร้านสะดวกซื้อใน กทม. กลับมาเปิดได้ 24 ชั่วโมง ส่วนร้านอาหารให้รับประทานได้ถึง 23.00 น. แต่ยังห้ามดื่มแอลกอฮอล์

สำหรับมาตรการทาง กทม. มองเป็นบวกต่อ BJC CPALL CRC โดยเฉพาะ CPALL ที่มีสาขา 7-11 กรุงเทพฯและปริมณฑลคิดเป็นสัดส่วน 44% ของสาขาทั้งหมด ดังนั้นจากทั้งหมด เราประเมินว่า SET อาจมีจังหวะของการปรับฐานจากจิตวิทยาลบต่างประเทศแต่เชื่อไม่ลึกมากเพราะในประเทศมีปัจจัยบวก

 

ส่วนปัจจัยสัปดาห์นี้ การประชุม กนง. และวันเดียวกัน (23 มิ.ย.) จะมีตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของเดือน พ.ค. สำหรับการประชุม กนง. เชื่อที่ประชุมคงดอกเบี้ยนโยบายแต่แนะติดตามมุมมองเศรษฐกิจ ส่วนตัวเลขการค้าระหว่างประเทศ Bloomberg มูลค่าส่งออก +35%YoY นำเข้า +54%YoY หากดีกว่าคาดจะเป็นบวกกับตลาด

 

กลยุทธ์การลงทุน เพิ่มความระมัดระวังต่อกลุ่ม Commodity แต่มองหุ้นได้ประโยชน์ อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ (DELTA HANA KCE) เลี้ยงสัตว์ (CPF GFPT TFG) ส่วนจังหวะการปรับฐานของดัชนีให้มองเป็นโอกาสสะสมกลุ่ม Domestic Play อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) รถไฟฟ้า (BTS BEM) ธนาคาร (KBANK) สื่อนอกบ้าน (PLANB VGI) ศูนย์การค้า (CPN) ตามปัจจัยบวกจากการทยอยเปิดเมืองช่วงครึ่งปีหลัง

 

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 67 บาท) มีปัจจัยบวกจากการที่ กทม. ประกาศให้ร้านสะดวกซื้อกลับมาเปิดได้ 24 ชั่วโมง ซึ่งบริษัทจะได้ประโยชน์โดยตรงจากการที่มีสา กทม.และปริมณฑลคิดเป็นสัดส่วนถึง 44% ของสาขาทั้งหมด ขณะที่ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมา 12.5% จากจุดสูงสุดก่อนหน้าเชื่อรับปัจจัยลบไปหมดแล้วจากนี้แนะรอการฟื้นตัว

 

MEGA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 43 บาท) คาดผลประกอบการ 2Q21 เติบโต YoY จากการขยายตลาดไปยังพม่า เวียดนาม และแอฟริกา ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันค่อนข้างถูก ซื้อขายเพียง 23.5x Trailing PE ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 26.7x

 

ข่าวที่เกีี่ยวข้อง: