สศค. ชี้โควิดยังฉุด แม้ส่งออก-มาตรการรัฐ ช่วยหนุนเศรษฐกิจ เม.ย. 64 ฟื้น

28 พ.ค. 2564 | 11:45 น.
อัปเดตล่าสุด :28 พ.ค. 2564 | 19:04 น.

สศค. เผยภาวะเศรษฐกิจการคลัง เม.ย.64 ขยายตัวจากฐานต่ำปีก่อน ส่งออกโตสุดในรอบ 36 เดือน และเยียวยารัฐ ชี้โควิด ระลอก เม.ย.64 ยังฉุดความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจไทย

นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนเมษายน 2564 พบว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนเมษายน 2564 ยังคงขยายตัวได้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการขยายตัวต่อเนื่องของการส่งออกสินค้า อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2564 อย่างใกล้ชิด

สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 65.8 ต่อปี สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่แท้จริงที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 9.8 ต่อปี ส่วนเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชนส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปี ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 21,429.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวที่ร้อยละ 13.1 ต่อปี สูงสุดในรอบ 36 เดือน นอกจากนี้เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ขยายตัวที่ร้อยละ 25.7 ต่อปี ทั้งนี้ ตลาดคู่ค้าหลักของไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดสหรัฐ จีน สหภาพยุโรป และเอเชียใต้ ขยายตัวที่ร้อยละ 9.0 21.9 52.5 และ 149.9 ต่อปี ตามลำดับ

เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทานขยายตัวเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยบริการด้านการท่องเที่ยว พบว่า ในเดือนเมษายน 2564 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประเภทพิเศษ (Special Tourist Visa: STV) รวมถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มสิทธิพิเศษ (Thailand Privilege Card) และนักธุรกิจ จำนวน 8,529 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกา เยอรมนี สหราชอาณาจักร และจีน

ภาวะเศรษฐกิจการคลัง เม.ย. 64

ทั้งนี้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 46.0 จากระดับ 48.5 ในเดือนก่อนหน้า และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 84.3 จากระดับ 87.3 ในเดือนมีนาคม 2564 เนื่องจากความกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นในเดือนเมษายน อย่างไรก็ดี มาตรการกระตุ้นการบริโภค โดยเฉพาะโครงการเราชนะ และโครงการ ม33 เรารักกัน ยังช่วยสนับสนุนกำลังซื้อของผู้บริโภคได้ในระดับหนึ่ง

เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้ว่าระดับราคาสินค้ามีแนวโน้มสูงขึ้น สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 3.4 ต่อปี และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.3 ต่อปี ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2564 อยู่ที่ร้อยละ 54.3 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ส่วนเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับมั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนเมษายน 2564 อยู่ในระดับสูงที่ 250.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ขณะที่ เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนเมษายน 2564 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากด้านการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในหลายภูมิภาค ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยฐานต่ำในปีก่อน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับลดลง เนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2564

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค