'กสิกรไทย' ย้ายสำนักงานใหญ่กลับ"พหลโยธิน"ฤาพลังฮวงจุ้ย?
เมื่อวันที่ 25พ.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทย ได้แจ้งย้ายสำนักงานใหญ่ จากราษฎร์บูรณะที่ใช้เป็นสำนักงานใหญ่นานถึง 26 ปี กลับมาสำนักงานใหญ่เดิมที่'อาคารพหลโยธิน' ตั้งอยู่เลขที่ 400/22 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร โดยได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย และได้จดทะเบียนต่อกระทรวงพาณิชย์แก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.2564 ซึ่งนับเป็นการย้ายสำนักงานใหญ่ครั้งที่ 5 ตั้งแต่การก่อตั้งธนาคารเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2488
ทั้งนี้สำนักงานใหญ่แห่งแรก อยู่ที่อาคารเลขที่ 306 ถนนเสือป่า แขวงป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ต่อมาในปี พ.ศ. 2510 ได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่ถนนสีลม ในปี พ.ศ.2526 ย้ายไปที่ถนนพหลโยธิน และในปี พ.ศ.2538 ย้ายไปถนนราษฎร์บูรณะ ก่อนที่จะย้ายกลับมาที่สำนักงานใหญ่พหลโยธินอีกครั้ง
สนง.ใหญ่ 3 แห่ง 3 มุมในกทม.
อย่างไรก็ดี หากจะว่าไปแล้วการบริหารในช่วงที่ 'บัณฑูร ล่ำซำ'เป็นซีอีโอ กสิกรไทยเป็นแบงก์เดียวที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ถึง 3 แห่ง 3 มุมของกรุงเทพฯในรัศมีห่างกันเพียง 20 กิโลเมตร ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานของพนักงาน และเป็นยุทธศาสตร์ของการบริหารความเสี่ยงในด้านของสถานที่การปฏิบัติงาน นั่นก็คือ สำนักงานใหญ่ราษฎร์บูรณะ , สำนักงานใหญ่พหลโยธิน และสำนักงานใหญ่แจ้งวัฒนะ
ทำไมต้องเป็นอาคาร"สนง.ใหญ่พหลโยธิน"
ธนาคารกสิกรไทย แจ้งเหตุผลการย้ายครั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการติดต่อธุรกิจกับลูกค้าและหน่วยงานต่าง ๆ โดยจะเห็นว่า สำนักงานพหลโยธิน มีจุดเด่นการเดินทางสะดวก ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอารีย์ และในช่วงที่ธนาคารย้ายสำนักงานใหญ่ไปอยู่ราษฏรบูรณะแล้วก็ตาม ในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ภายหลังก็ยังต้องย้ายกลับมาที่สำนักงานใหญ่พหลโยธินอยู่ดี หรือการประชุมบอร์ด-ผู้บริหารธนาคารก็มักจะใช้อาคารสำนักงานใหญ่พหลโยธิน รวมทั้งบริษัทในเครือกสิกรไทยก็ตั้งอยู่ในอาคารแห่งนี้
อย่างไรก็ดีหากจะมองในด้านเหตุผลที่จับต้องไม่ได้ ความเชื่อในเรื่องของฮวงจุ้ย 'บัณฑูร ล่ำซำ' เคยเล่าเมื่อครั้นเปลี่ยนแปลง"ฮวงจุ้ย"ครั้งใหญ่ที่สำนักงานใหญ่ราษฏร์บูรณะในปี 2552 ว่าในบรรดา 3 สำนักงานใหญ่ "สำนักงานพหลโยธิน" เป็นสำนักงานใหญ่ที่ฮวงจุ้ยดีที่สุด ไม่ต้องแก้ไขอะไรเลย ทั้ง ๆที่โดนรถไฟฟ้าผ่าน ตัวอาคารเป็นแท่นสีเหลี่ยมทรงสูงแสดงถึงความมั่นคง ซึ่งเเหมาะกับการเป็นสำนักงานใหญ่สถาบันการเงิน
เล่ากันว่าในยุคของ บัญชา ล่ำซำ ( อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ) มีความตั้งใจอยู่แล้วที่จะใช้สำนักงานพหลโยธินเป็นสำนักงานใหญ่ อีกทั้งยังมีแนวคิดที่จะขยายสำนักงาน โดยซื้ออาคารไอบีเอ็มที่มาเสนอขายในขณะนั้น แต่ด้วยราคาที่ตั้งไว้ค่อนข้างสูงจึงได้ล้มความตั้งใจไปเสียก่อน
ส่วนสำนักงานใหญ่ราษฎร์บูรณะ หลายคนอาจคิดว่าตั้งอยู่ในชัยภูมิที่ดีติดริมแม่น้ำ แต่มุมมอง'บัณฑูร' กลับมองว่า ด้อยสุดในบรรดา 3 สำนักงานใหญ่ อ.มาศ เคหาสน์ธรรม อธิบายฮวงจุ้ย สำนักงานใหญ่แห่งนี้ว่า เป็นจุดที่ตั้งเกิดกระแสตีกลับของลำน้ำเจ้าพระยาเข้ามาโอบพอดี และสะพานที่แขวนทอดยาวมาหาอาคารเป็นลักษณะของธาตุไม้ การก่อสร้างอาคารจึงเป็นทรงสูง (ธาตุไม้) มีปลายแหลมลักษณะของธาตุไฟ หมายถึงการใช้วิชาความรู้ (ธาตุไม้) มาสร้างความโดดเด่นและความสำเร็จ (ธาตุไฟ)ส่วนประตูด้านหน้าติดถนนใหญ่เป็นทางลงของสะพานแขวน เป็นตัวตัดกระแสเข้ามากักเก็บในตัวอาคาร
แต่มีจุดด้อย ที่การออกแบบตัวอาคารหันหลบทิศทางการไหลของแม่น้ำเจ้าพระยา มองเห็นแต่แม่น้ำไหลจากไป จึงได้ทำให้ลดความเป็นมงคลไปอย่างน่าเสียดาย แทนที่จะได้เป็นฮวงจุ้ยธนาคารอันสมบูรณ์แบบในอุดมคติ
การย้ายสำนักงานใหญ่จากอาคารพหลโยธิน มาที่ราษฏร์บูรณะในปี 2538 จึงมีเรื่องให้ต้องปรับแก้ไขฮวงจุ้ยมาตลอด ตั้งแต่การเปลี่ยนจาก'สิงโตคู่' ที่ตั้งอยู่หน้าทางเข้าสำนักงานใหญ่ มาเป็น 'ช้างคู่' เพราะหลักการซินแสเชื่อว่าช้างเป็นสัตว์ใหญ่ มั่นคง มีความอ่อนโยนและเป็นมิตร เหมาะกับธุรกิจแบงก์ ส่วน สิงโต เหมาะสำหรับ วัด บริษัทอสังหาริมทรัพย์ และหน่วยงานทหาร
หรือการแก้ไขฮวงจุ้ยโดยการต่อเติมพื้นที่ชั้น 39 ซึ่งเดิมเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนลาดลงด้านล่าง ทำให้โลโก้ธนาคารเอียงเห็นไม่ชัดจากมุมไกล และจุดนี้ทำให้ถูกมองว่าเงินทองจะไหลลงน้ำ จึงแก้โดยเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ตั้งฉากเป็นจุดชมวิวและเพิ่มส่วนห้องจัดเลี้ยงชั้น 38 ซึ่งใช้เวลาการปรับเปลี่ยนก่อสร้างถึงหนึ่งปีเต็ม
ถึงวันนี้ ถามว่า'ฮวงจุ้ย'ที่สำนักงานราษฏร์บูรณะแก้ไขครบสมบูรณ์หรือยัง ? มุขติดปากที่ 'บัณฑูร' พูดถึงเมื่อเข้าประชุมกับผู้บริหารธนาคารฯอยู่บ่อยครั้งว่า "...เรื่องของฮวงจุ้ย ผมก็ได้แก้ไขจนครบดีขึ้นหมดแล้ว จากนี้แบงก์จะดีขึ้นหรือไม่ ก็อยู่ที่ฝีมือการบริหารของพวกคุณ "
ส่วนสำนักงานใหญ่ที่ถนนแจ้งวัฒนะ เป็นสำนักงานใหญ่แห่งใหม่เปิดเมื่อต้นปี 2552 มีจุดเด่นเป็นอาคารอนุรักษ์พลังงาน เกิดขึ้นในยุคที่บัณฑูรเป็นซีอีโอแล้ว การออกแบบจึงตามหลักฮวงจุ้ยทุกประการตั้งแต่แรก อย่างเรื่องของกระจกที่เป็นเหลี่ยมเพื่อสะท้อนสิ่งชั่วร้าย รวมถึงยังมีการฝัง "ช้างหยก" ลงในเสาเข็ม เพื่อให้ดึงเงินทองไหลเข้ามา
ในเรื่องศาสตร์ปรับฮวงจุ้ย 'บัณฑูร' ยังมีความเชื่อว่า กรรมจะวนเวียนอยู่ทุกสิบปี เหมือนกับวิกฤติเศรษฐกิจที่จะมาเยือนทุกสิบปี
ทว่าการย้ายสำนักงานใหญ่กลับมาปักหลักที่'สำนักงานที่พหลโยธิน' ครั้งนี้ จึงอาจเป็นเรื่องความเชื่อ ศาสตร์"ฮวงจุ้ย"ในการสร้างพลังความแกร่งให้ธนาคารพร้อมกลับมารุกอีกครั้ง ท่ามกลางวิกฤติจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 หรือไม่...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง