KTBST SEC โตสวนกระแสโควิด

22 พ.ย. 2563 | 12:40 น.
536

 KTBST SEC จับมือ บลจ.วี โตสวนกระแสโควิด เหตุกระจายรายได้หลากหลาย ชี้โควิดส่งผลดี ทำให้นักลงทุนมีเวลาศึกษาข้อมูลมากขึ้น ยอดเปิดบัญชีเทรดหุ้นออนไลน์พุ่ง 20%

การลงทุนในตลาดหุ้นไทยกับสภาวะปัจจุบัน เป็นเรื่องปกติที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับความผันผวน ซึ่งไม่ใช่แค่นักลงทุนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ให้บริการ อย่างบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เองก็ต้องปรับเปลี่ยนการให้บริการ เพื่อให้นักลงทุนได้รับความสะดวกสบายที่สุด รองรับพฤติกรรมการลงทุนให้ตอบโจทย์มากที่สุด “บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST SEC และ “บลจ.วี จำกัด” ก็เช่นกัน ที่เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง

 

นายณัฐพงศ์ ณ ระนอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTBST SEC เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า แม้ปี 2563 ธุรกิจและอุตสาหกรรมจะถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ผลการดำเนินงานของบริษัทยังเติบโตได้ดีกว่าปีที่ผ่าน ทั้งในแง่รายได้และกำไร จากการที่บริษัทได้เปิดให้บริการแบบครบวงจร (One- stop Service) รวมถึงกระจายแหล่งที่มาของรายได้อย่างหลากหลาย เช่น ธุรกิจให้คำแนะนำลงทุนซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์ปกติ, การบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ของกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth), การบริการวาณิชธนกิจ, กองทุนส่วนบุคคล และการลงทุนในต่างประเทศ  

 

“ผลการดำเนินงานทุกธุรกิจเติบโตได้ดี เพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้นักลงทุนมีเวลาศึกษาหาข้อมูลการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ มากขึ้น ประกอบกับยอด การซื้อขายหุ้นผ่านช่องทางออนไลน์ของนักลงทุนใหม่ มีการเปิดบัญชีเพิ่มขึ้น 5,000-6,000 บัญชีหรือเติบโต 20%จากฐานลูกค้าสิ้นปี 2562 อยู่ที่ประมาณ 30,000 บัญชี”

ณัฐพงศ์ ณ ระนอง

สำหรับแผนธุรกิจปี 2564 ยังคงให้นํ้าหนักกลุ่มนักลงทุนรายย่อย,นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุน High Net Worth และที่จะดำเนินการเพิ่มเติมคือ เน้นจัดสัมมนาให้ความรู้แก่นักลงทุนมากขึ้น หลังจากปีนี้ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะมีมาตรการ Lockdown, เพิ่มสัดส่วนการให้ความรู้นักลงทุนไปลงทุนหุ้นต่างประเทศมากขึ้น ทั้งลงทุนโดยตรงและทางอ้อมผ่านบลจ.หรือกองทุนรวม, ธุรกิจวาณิชธนกิจจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวจากการเริ่มเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ) ซึ่งปีหน้าคาดว่า จะมีลูกค้าของบล.ที่จะเสนอขายไอพีโอประมาณ 3-4 ราย

 

ขณะเดียวกัน จะมีการออกตราสารหนี้ใหม่ๆ โดยจะเน้นเพิ่มสัดส่วนการออกหุ้นกู้ที่มีอันดับเครดิตในกลุ่มน่าลงทุน(Investment Grade)มากขึ้น จะไม่เพิ่มสัดส่วนหุ้นกู้ที่มีผลตอบแทนสูง เนื่องจากมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง และสุดท้ายคือ ให้ความสำคัญของระบบเทคโนโลยี(ไอที) โดยปีหน้าจะมีการใช้ Cloud Computing ด้วยการโอนย้ายข้อมูลบางส่วนจากระบบเดิมไปยัง Cloud ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านไอทีได้พอสมควร รวมถึงจะเริ่มให้บริการแอปพลิเคชัน KTBST LIFE ที่เป็นเวอร์ชั่นต่อจาก KTBST Smart APP ที่มีในปัจจุบัน เพื่อยกระดับความพึงพอใจให้กับลูกในมากขึ้น

 

นอกจากนั้น KTBST SEC ยังมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจคือ ระบบซื้อขาย MT5 เป็นสมาร์ทแพลตฟอร์มที่ใช้ซื้อขายหุ้นอัตโนมัติ ที่ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทอื่นในการพัฒนาโมเดลให้ลูกค้าได้เลือกตามความต้องการ เหมาะกับลูกค้าที่ไม่มีเวลาติดตามการซื้อขายหุ้น หรือไม่มีความชำนาญในการเขียนโปรแกรมเอง, MT4 สมาร์ทแพลตฟอร์มที่ใช้ซื้อขายอนุพันธ์ ที่มีจุดเด่นในการซื้อขายอย่างรวดเร็ว อีกทั้งสามารถตั้งจุดขายทำกำไรหรือหยุดไม่ให้ราคาลดลงไปมากกว่านี้ (Stop Loss) ล่วงหน้าได้ และบริการ Islamic Wealth Management เพื่อบริการความมั่งคั่งให้แก่นักลงทุนอิสลามแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย โดยเป็นไปตามหลักศาสนา

ด้านนายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วี จำกัด กล่าวว่าปี 2563 เป็นปีที่ 2 ของการเปิดดำเนินการของบลจ.วี ซึ่งผลการดำเนินงานทำได้ดีกว่าที่คาด โดยที่ผ่านมามีการออกกองทุนต่อเนื่อง แม้โควิด-19 จะทำให้อุตสาหกรรมชะลอออกกองทุน แต่ด้วยการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถออกกองทุนได้ทันช่วงที่ดัชนีหุ้นปรับลดลงแรง โดยปัจจุบันบลจ.มีกองทุนรวม 19 กองทุน และปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 จะออกเพิ่มอีก 1 กองทุน รวมทั้งหมดในปีนี้ 20 กองทุน

อิศรา พุฒตาลศรี

“ปีหน้าคาดว่า การออกกองทุนใหม่จะไม่มากเท่าปีนี้ เพราะผลิตภัณฑ์เริ่มเต็มแล้ว แต่จะเน้นออกธีมที่หลากหลายขึ้น รวมถึงเน้นขายกองเดิม ด้วยการขยายขนาดนักลงทุนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้จะขยายช่องทางการขาย ปรับปรุงระบบให้บริการการขายให้ดียิ่งขึ้น และจะเร่งเปิดระบบการเปิดบัญชีออนไลน์โดยตรงผ่านหน้าเว็บไซต์ของ บลจ.วีได้ ซึ่งยังอยู่ระหว่างพัฒนา คาดว่า จะแล้วเสร็จช่วงไตรมาส 1 ปี 2564 ด้านการประชาสัมพันธ์ จะพยายามทำให้นักลงทุนรู้จักและสร้างความจดจำแบรนด์ บลจ.วีให้มากขึ้น เนื่องจากอยู่ในช่วงเริ่มดำเนินการได้เพียง 2 ปีเท่านั้น” 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวน วิตกโควิดกระทบเศรษฐกิจโลก

บล.ทิสโก้มองระยะสั้น หุ้นไทยขึ้นได้จำกัด

หุ้น SAWAD ดีด 1.38%  ร่วมทุน"ธ.ออมสิน" รุกธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ

LIT ติดอันดับหุ้นยั่งยืนปี 63

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,629 วันที่ 22 - 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563