อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.63 บาทต่อดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน กรอบเงินบาทวันนี้ 31.53-31.73 บาทต่อดอลลาร์
ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS)ระบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท ก็แกว่งตัวอ่อนค่าลงจากแรงขายทำกำไรระยะสั้นของนักลงทุนต่างชาติ โดยใช้ประเด็นความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นเหตุผลประกอบ
ในระยะสั้นจึงต้องจับตาทิศทางของเงินหยวน (CNY) ซึ่งเป็นตัวแทนภาพความเสี่ยงของตลาดเงินในเอเชียที่ชัดเจนที่สุด ถ้าความขัดแย้งครั้งนี้ กดดันให้เงินหยวนอ่อนค่าทะลุระดับ 7.05 หยวนต่อดอลลาร์ขึ้นไป ก็จะกดดันให้เกิดแรงขายในสกุลเงินเอเชียอื่น ๆ รวมถึงเงินบาทตามไปด้วย
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ในช่วงคืนที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 ปิดตัวบวก 0.6% ด้วยความคาดหวังว่ารัฐบาลสหรัฐจะมีนโยบายการคลังเพิ่มเติม พร้อมกันกับที่วัคซีนป้องกันโคโรนาไวรัสจะพัฒนาสำเร็จ สวนทางกับฝั่งยุโรป ที่ถูกขายทำกำไรหลังผ่านนโยบายการคลังรวมของสหภาพยุโรปล่าสุดไปแล้ว เห็นได้ชัดจาก Stoxx Europe 600 ที่ปรับตัวลง 0.9%
ส่วนในตลาดพันธบัตร นักลงทุนก็ยังคงมีมุมมองเชิงลบกับเศรษฐกิจอยู่ เห็นได้จากบอนด์ยีลด์เยอรมันอายุ 10 ปีที่ปรับตัวลงต่อ 3bps มาที่ระดับ -0.49% ขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐก็ทรงตัวที่ 0.60% หนุนให้ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปที่ระดับ 1871 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ชี้ว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังเลือกที่จะพักเงินในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ แม้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะไม่แย่และตลาดหุ้นสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง
สำหรับในฝั่งตลาดเงิน ภาพหลักยังคงเป็นการอ่อนค่าของดอลลาร์ต่อเนื่อง 0.2% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก และเงินยูโรที่ขยับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 21 เดือนเนื่องจากตลาดมีความเชื่อมั่นในภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป นอกจากนี้นักลงทุนบางส่วนก็เลือกที่จะถือเงินยูโรแทนดอลลาร์ในช่วงที่ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนอยู่ในระดับสูง