กบอ.ชี้ ต่างชาติยังเข้าลงทุนในไทย

11 มิ.ย. 2563 | 15:14 น.

กบอ. เชื่อคลายล็อคดาวน์ จะทำจีดีพีติดลบน้อยลงได้ เหตุต่างชาติจะยังเข้าลงทุนในไทยอยู่ แต่พร้อมดันพัฒนาภาคการเกษตรเทียบภาคอุตสาหกรรม

นายคณิศ​ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) โดยมีนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานว่า หลังจากคาดการณ์ว่า รัฐบาลมีมาตรการผ่อนปรนการ ล็อคดาวน์ มากขึ้นในสิ้นเดือนนี้ จะทำให้นักลงทุนต่างชาติเดินทางเข้ามาเจรจาการทำธุรกิจในไทยได้ง่ายขึ้น จากก่อนหน้านี้มีมาตรการปิดเมืองห้ามเดินทางเข้าออก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้จีดีพีของประเทศติดลบถึง 5% ที่ทำให้เงินลงทุนหายไปกว่า 800,000 ล้านบาท

 

กบอ.ชี้ ต่างชาติยังเข้าลงทุนในไทย

ดังนั้นเชื่อว่า หากมีมาตรการคลายล็อคดาวน์และมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมากกว่า 80% จะส่งผลให้จีดีพีปีนี้ติดลบน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้

ส่วนการลงทุนโดยตรงจากนักลงทุนต่างชาติ (FDI)  ยอมรับว่า ในปีนี้ชะลอตัวลงแน่นอน เพราะ Covid-19 กระทบค่อนข้างมาก แต่ ตัวเลข FDI จะติดลบมากน้อยเพียงใด จะต้องติดตามจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นผู้พิจารณาอย่างเป็นทางการ

“เชื่อว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศคงไม่ลื่นไหล จนกว่าจะมีวัคซีน แต่ตัวเลขคงต้องรอจากทาง BOI อีกครั้ง แต่เชื่อว่า หลังจากนี้ไทยจะยังคงเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะลงทุนในพื้นที่ EEC อยู่”นายคณิศ กล่าว

สำหรับแผนความคืบหน้าการลงทุนของ EEC นั้น มี 2 โครงการที่ลงนามแล้ว ประกอบด้วย 1.รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน 2.ท่าเรือแหลมฉบัง และสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบิน จะลงนามในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ ขณะที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด อยู่ระหว่างการพิจารณา และด้านศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน(MRO) เชื่อว่าจะล่าช้าไปกว่าแผนที่วางไว้

 

“ตอนนี้โครงการต่างๆส่วนใหญ่ก็เป็นไปตามแผน ยกเว้นศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน หากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ทำได้ก็เป็นเรื่องดี แต่หากการบินไทยไม่สามารถดำเนินการได้ ยังมีนักลงทุน หรือ สายการบินทั้งในและต่างชาติให้ความสนใจ ทั้งแอร์เอเชีย สหรัฐ และนักลงทุนจากสิงคโปร์”นายคณิศ กล่าว

 

กบอ.ชี้ ต่างชาติยังเข้าลงทุนในไทย

 

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเตรียมและพัฒนาศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศ EEC มีแผนพัฒนาภาคเกษตรในพื้นที่ EEC เพื่อผลักดัน ให้จีดีพีภาคการเกษตรขยายตัวใกล้เคียงกับภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ สำหรับปัจจุบัน จีดีพีภาคเกษตรขยายตัวเพียง 2% ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 4-5%

กบอ.ชี้ ต่างชาติยังเข้าลงทุนในไทย

สำหรับการยกระดับภาคอุตสาหกรรมการเกษตรนั้น จะเน้นที่ 5 คลัสเตอร์ ประกอบด้วย 1.ผลไม้ 2.ประมง 3.พืชสำหรับอุตสาหกรรมชีวภาพ (Bio-Based3) 4.พืชสมุนไพร และ 5.พืชที่สร้างมูลค่าสูง และในอนาคตจะขยายการพัฒนาภาคการเกษตรที่เป็นที่ต้องการในภาคอุตสาหกรรม เพื่อความเชื่อมโยงและต่อยอดเสริมรายได้มากขึ้น

กบอ.ชี้ ต่างชาติยังเข้าลงทุนในไทย