นางสาวพาพิชญ์ วงศ์ไพฑูรย์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ริช สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ RSP ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทรองเท้า (Footwear) เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายอื่นๆ (Non-Footwear) ภายใต้ตราสินค้าชั้นนำจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ในการรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งการจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งลาซาด้า (Lazada) ช้อปปี้ (Shopee) เฟซบุ๊ก (Facebook) และ ไลน์ออฟฟิเชี่ยล (Line Official) นอกจากนี้ ยังมีการจัด Marketing Activity อาทิ การแจกของพรีเมียม เพื่อผลักดันยอดขายอีกช่องทางหนึ่ง
ปัจจุบัน ห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ได้กลับมาเปิดทำการเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 ตามมาตรการปลดล็อกดาวน์ของภาครัฐ บริษัทฯมีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งในการให้บริการนำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์เจาะตลาดผู้บริโภค พร้อมทั้งเตรียมแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างเต็มที่ และเชื่อมั่นว่าหากสถานการณ์การแพร่ระบาดสามารถคลี่คลายได้โดยเร็ว ก็จะส่งผลดีต่อบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น
“ภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีการปิดสาขาบางส่วนไปชั่วคราว แต่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์รุกจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขาย และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี จึงมองว่าในอนาคตตลาดออนไลน์จะเป็นอีกตลาดที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และบริษัทฯ จะเข้าไปทำการตลาดอย่างเต็มระบบ” นางสาวพาพิชญ์ กล่าว
สำหรับแผนลงทุนขยายสาขาในปี 2563 บริษัทได้ชะลอแผนการเปิดสาขาออกไปก่อน เพื่อประเมินสถานการณ์โควิด-19 และพฤติกรรมผู้บริโภคในการเดินห้างสรรพสินค้าในช่วงหลังจากนี้ โดยจะเน้นเป็นการเพิ่มยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) และช่องทางออนไลน์เป็นหลัก และหากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติจะพิจารณาแผนขยายสาขาอีกครั้ง สำหรับเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างเตรียมทบทวนตัวเลขประมาณการใหม่ โดยขอติดตามสถานการณ์ในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด
และเพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำในการจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ บริษัทฯได้ลงนามสัญญาการเป็นตัวแทนจัดจำหน่าย กับบริษัท Alpargatas S.A.จากประเทศบราซิล ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์รองเท้าและสินค้าแฟชั่นภายใต้ตราสินค้า Havaianas โดยสัญญาดังกล่าวให้สิทธิแก่บริษัทฯในการจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราสินค้า Havaianas แต่เพียงผู้เดียวในราชอาณาจักรไทย โดยสัญญามีระยะเวลา 5 ปี จึงเป็นโอกาสของบริษัทฯ ในการขยายตลาด และการเติบโตในระยะยาว
ด้านผลประกอบการในงวดไตรมาส 1/2563 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 225.60 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 32.7 จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 335 ล้านบาท โดยรายได้ของบริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ได้ขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และส่งผลกระทบต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศปิดศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม 2563 ส่งผลให้บริษัทขาดทุนสุทธิรวม 29.1 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 156.4 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตราขาดทุนสุทธิร้อยละ 12.9