MUFG  เล็งดันแบงก์กรุงศรี  ขึ้นแท่นเบอร์1

07 พ.ย. 2562 | 13:40 น.

มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป หรือ MUFG หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยเครือข่ายธนาคารกว่า 300 แห่งทั่วโลก ครอบคลุม 50 ประเทศ และพนักงานกว่า 1.8 แสนคน ซึ่งหากดูงบการเงินจะพบว่า MUFG มีเงินสินเชื่ออยู่ในอันดับ 5 และอันดับ 6 สำหรับเงินฝาก และมีธุรกิจหลากหลาย ทั้งธุรกิจธนาคาร กองทุนทรัสต์ เช่าซื้อ และคอนซูเมอร์ไฟแนนซ์ มีการขยายสินเชื่อข้ามประเทศจำนวนมาก ทำให้มีฐานธุรกิจต่างประเทศกว่า 3,400 ล้านบาท จากการขยายความร่วมมือกับสถาบันการเงินในทวีปต่างๆ ซึ่งในไทยเอง MUFG ได้ลงทุนในธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน)หรือด้วยการซื้อหุ้นใหญ่ 76.6%

นายชิโระ ฮอนโจ ผู้บริหารระดับสูงและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวางแผนธุรกิจขนาดใหญ่ระดับโกลบัล ธนาคาร MUFG เล่าว่า การขยายเครือข่ายระดับสากลของ MUFG ปัจจุบันจะใช้ยุทธศาสตร์ร่วมทุนเพื่อขยายฐานลูกค้า เพราะจะเกิดผลสำเร็จมากขึ้น โดยใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสร้างแพลต ฟอร์มในการสร้างการเติบโตธุรกิจต่างประเทศ  โดยยังคงมุ่งมั่นขยายธุรกิจในพันธมิตรธนาคารของ MUFG เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงธุรกิจที่มีเร็วขึ้น ทำให้การขยายธุรกิจต่างประเทศเป็นเรื่องสำคัญ

MUFG  เล็งดันแบงก์กรุงศรี  ขึ้นแท่นเบอร์1

ชิโระ ฮอนโจ

ทั้งนี้ หากดูโครงสร้างกำไรจากบริษัทลูกจะพบว่า ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธุรกิจในสหรัฐฯ สร้างผลกำไรค่อนข้างดี โดยกำไรจากธุรกิจการค้านอกประเทศมีสัดส่วนถึง 40% และในจำนวนดังกล่าวมาจากสหรัฐฯ 50% และอีก 40% มาจากเอเชีย และคาดว่าในอนาคตธุรกิจจากกรุงศรี จากสหรัฐฯ และธนาคารดานามอนที่เพิ่งร่วมทุนไป จะมาเป็น 3 เสาหลักในการขยายธุรกิจและทำกำไรให้กับ MUFG

สำหรับธนาคารกรุงศรีอยุธยานั้น จะเห็นว่ามีผลการดำเนินงานค่อนข้างดี โดยมีอัตราการเติบโตสินเชื่อเพิ่มขึ้น สวนทางกับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ที่อยู่ในระดับตํ่า สะท้อนการบริหารจัดการได้อย่างดี เมื่อเทียบกับผลงาน 4 ธนาคารขนาดใหญ่ในไทย ดังนั้นเป้าหมายในอนาคต MUFG ต้องการผลักดันให้เป็นสถาบันการเงินอันดับ 1 ในไทย และเป็นสถาบันการเงินที่ได้รับความน่าเชื่อถือ ซึ่งเบื้องต้นไต่อันดับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 4 แต่เป้าหมายไม่ได้มีเพียงการไต่อันดับ ยังรวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรด้วย

MUFG  เล็งดันแบงก์กรุงศรี  ขึ้นแท่นเบอร์1

 

 

ส่วนแนวทางการขยายความร่วมมือนั้น นายชิโระ กล่าวว่า MUFG จะขยายความร่วมมือกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาในการขยายฐานลูกค้าร่วมกันผ่านการจับคู่ธุรกิจ (Business Machicneh)ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 2,000 ราย และขยายฐานลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และลูกค้ารายย่อย ภายใต้การร่วมลงทุนในบริษัท เอสบี ไฟแนนซ์ คอมปานี อิงค์ (SB Finance Company, Inc. หรือ SBF) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทไฟแนนซ์ในประเทศฟิลิปปินส์ โดย MUFG ถือหุ้นในสัดส่วนราว 20% ในซีเคียวริตี้ แบงก์ คอร์ปอเรชั่น และหากดูตามแผนระยะกลางของ MUFG ตั้งแต่ปี 2560-2563 ตัวเลขธุรกิจกลุ่มลูกค้า Globla Commercial Banking มีอัตราการเติบโต 65% และมีสัดส่วนถึง 18% ของกลุ่มลูกค้าทั้งหมดที่มีอยู่ 6 กลุ่มธุรกิจ

MUFG  เล็งดันแบงก์กรุงศรี  ขึ้นแท่นเบอร์1

 

ธุรกิจในต่างประเทศถือเป็นโอกาสการเติบโต เพราะธุรกิจในญี่ปุ่นค่อนข้างอิ่มตัวแล้ว หากดูงบการเงินสินเชื่อไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่กลับลดลงเล็กน้อย เป็นผลมาจากบริษัทเอกชนญี่ปุ่นไม่ค่อยชอบกู้เงิน ทำให้กำไรจากดอกเบี้ยก็ลดลง จะเห็นส่วนต่างดอกเบี้ยลดลงต่อเนื่องจาก 0.84% ลงมาอยู่ที่ 0.81% ซึ่งส่วนทางกับสินเชื่อต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และสร้างกำไรมากกว่า 40% เราจึงต้องการขยายธุรกิจในเอเชียและสหรัฐฯ มากขึ้น โดยเฉพาะกรุงศรี ที่มีผลงานโดดเด่นค่อนข้างมาก

ขณะที่นายเอกวีร์ วิศิษฏสุนทร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารฝ่ายการตลาดองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา หลังจากร่วมมือกับ MUFG จะเห็นตัวเลขการเติบโตต่อเนื่อง โดยสินทรัพย์เพิ่มจาก 1 ล้านล้านบาท เป็น 2 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น80% และเป็นผู้นำด้านรายย่อย โดยมีสัดส่วนลูกค้ารายย่อย 49% ลูกค้าขนาดใหญ่ 29% และเอสเอ็มอี 22% แต่ปัจจุบันฐานลูกค้าขนาดใหญ่ที่เป็นญี่ปุ่น 13% ซึ่งโดยเฉลี่ย 70-75% มีบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยาและ 40% ใช้กรุงศรีเป็นธนาคารหลักสะท้อนธุรกิจที่ครบวงจรมากขึ้น ตลอดจนการจับคู่ธุรกิจกับลูกค้าไทย-ญี่ปุ่นมากขึ้น

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,520 วันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2562

                         MUFG  เล็งดันแบงก์กรุงศรี  ขึ้นแท่นเบอร์1