ซิตี้แบงก์เผย ลูกค้าคนรวยรุ่นใหม่ สนใจลงทุนเพิ่มแทนฝากเงิน ดันพอร์ตลงทุนแตะ 70-80% ส่วนเงินฝากหดเหลือ 20% แถมฐานลูกค้ากว่า 50% เบนเข็มลงทุนต่างประเทศเพิ่ม มั่นใจช่วยลูกค้าจัดพอร์ตลงทุนผ่านกองทุน Offshore 16 บลจ. ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าซิตี้โกลด์โต 25%
นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ปัจจุบันพบว่า กลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง (Wealth Management) ที่มีเงินฝากและการลงทุนตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป หรือลูกค้า Citigold ให้ความสนใจลงทุนเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับอดีต โดยสัดส่วนการลงทุนเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% มาอยู่ที่ 70-80% ขณะที่สัดส่วนเงินฝากทยอยลดลงเหลือเพียง 20% สะท้อนว่า ลูกค้าเริ่มมีความรู้ความเข้าใจในการด้านการลงทุนมากขึ้น
ขณะเดียวกัน สัดส่วนการลงทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี จะเป็นการลงทุนในต่างประเทศในสัดส่วนที่มากขึ้นประมาณ 50% จากเดิมที่เน้นการลงทุนเฉพาะในประเทศ โดยใช้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในเรื่องการลงทุนมากขึ้น และแนวโน้มนักลงทุนเริ่มมีอายุเฉลี่ยน้อยลงหรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ จากเดิมที่ฐานลูกค้าที่มีการลงทุนสมํ่าเสมอ(Active) อายุเฉลี่ย 40 ปี แต่ปัจจุบันอายุเฉลี่ย 30 ปีเพิ่มขึ้นชัดเจน จากฐานลูกค้าแบงกิ้งประมาณ 3 หมื่นราย และปีนี้คาดว่า ลูกค้ากลุ่มมั่งคั่งจะเติบโตเพิ่มขึ้น 25-30% จากปีก่อนขยายตัวประมาณ 30%
“สาเหตุที่ทำให้ลูกค้าเติบโตได้ดี เพราะเรามีเครื่องมือเทคโนโลยีและข้อมูลคำแนะนำ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายที่ช่วยลูกค้าตัดสินใจลงทุนได้ ซึ่งจากแนวโน้มที่ลูกค้าสนใจลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพราะเราเป็นธนาคารเดียวที่ลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (Offshore) ที่มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) 16 แห่ง ลงทุนโดยตรงในต่างประเทศและลงทุนผ่านกองทุน (FIF)ได้ แต่มองว่าอัตราผลตอบแทน(Yield) ปีนี้อาจลดลงจากปีก่อน เพราะตลาดค่อนข้างมีความผันผวน ลูกค้าควรกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์หลากหลาย (Multi Asset) ซึ่งเรายังให้นํ้าหนักในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงไทย และตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) เนื่องจากมองว่าแนวโน้มดอลลาร์อาจจะกลับมาอ่อนค่าได้ในระยะกลาง”
หน้า 23-24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,391 วันที่ 12 - 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561