J.I.B.เล็งเข้าตลาดหุ้น ตั้ง JIBEX ตลาดรองซื้อขายคริปโตฯ

16 มี.ค. 2561 | 06:06 น.
2.4 k
J.I.B.ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 1 หมื่นล้านบาท วางแผนเข้าตลาดหุ้นภายใน 3 ปี ก่อตั้งตลาดรองซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลเป็นรายที่ 3 คาดซื้อขายวันละ 100 ล้านบาท

บริษัท เจ.ไอ.บี. คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่าย สินค้าไอทีทุกชนิด, คอมพิวเตอร์ PC, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก, ซอฟต์แวร์, ฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้บริษัทยังเป็นผู้นำในการขายสินค้าออนไลน์ โดยดำเนินธุรกิจมา 16 ปี มีสาขา 140 สาขา

นายสมยศ ชวลิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ไอ.บี. คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ยอดขายในปีที่ผ่านมาทำได้ 8,300 ล้านบาท และในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมียอดขาย 10,000 ล้านบาท โดยวางแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 3 ปี

บริษัท เจ.ไอ.บี.ฯได้ร่วมกับนายธรรมธีร์ สุกโชติรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเงิน (ฟินเทค) ร่วมก่อตั้งบริษัท เจไอบีอีเอ็กซ์ จำกัด (JIBEX) ซึ่งให้บริการเว็บไซต์และแอพพลิเคชัน สำหรับบริหารจัดการลงทุน และซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) เพื่อเป็นตัวช่วยให้นักลงทุนได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนสกุลเงินดิจิตอลโดยจะร่วมมือกับพันธมิตรหลายราย อาทิ สถาบันการเงิน, บริษัทจัดการลงทุน และบริษัทรักษาความปลอดภัยของระบบอินเตอร์เน็ต

[caption id="attachment_268477" align="aligncenter" width="503"] ธรรมธีร์ สุกโชติรัตน์ ธรรมธีร์ สุกโชติรัตน์[/caption]

ปัจจุบันในไทยมีตลาดรองซื้อขายสกุลเงินดิจิตอล 2 ราย คือ bx.in.th และ tdax.com นายธรรมธีร์ สุกโชติรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจไอบีอีเอ็กซ์ จำกัด (JIBEX) กล่าวว่าบริษัทมีความตั้งใจพัฒนา JIBEX ให้เป็นเว็บไซต์และแอพพลิเคชันที่มีความปลอดภัยเทียบเท่ากับสถาบันการเงิน มีความมั่นคงและตอบสนองต่อนักลงทุน ในเฟสแรกจะให้บริการกระเป๋าเงินสกุลเงินดิจิตอล หรือ Cryptocurrency Wallet ที่มีการยืนยันตัวตน(KYC)มาตรฐานระดับสูง คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ภายในเดือนเมษายนนี้ (ผ่านเว็บไซต์ www.jib-ex.com) ในช่วงแรกจะให้บริการได้กับเงินดิจิตอล 5 สกุล คือ Bitcoin, Ethereum, Ripple, Bitcoin Cash, และ Litecoin และจะรองรับสกุลเงินมากขึ้นในอนาคต

ในเฟสที่ 2 จะเปิดให้บริการตลาดรองซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลด้วยกัน และสกุลเงินดิจิตอลกับเงินบาท (Exchange) เฟสที่ 3 จะให้บริการเครื่องมือช่วยเหลือในการซื้อขาย (Advance Trading Tools) เช่น Robot Trade ที่ช่วยนักลงทุนซื้อขายทำกำไร อีกทั้งจะพัฒนาระบบเพื่อรองรับการซื้อของออนไลน์ (E-Commerce) โดยชำระผ่านสกุลเงินดิจิตอล

บาร์ไลน์ฐาน ในเฟสที่ 4 จะเปิดให้บริการด้านการบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) เพื่อช่วยจัดการสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการลงทุนสกุลเงินดิจิตอลและการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ โดยคาดว่าในการพัฒนาแต่ละเฟสจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ส่วนการพัฒนาในบางเฟสที่ต้องรอความชัดเจนของกฎเกณฑ์การกำกับดูแล ก็จะต้องให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่ออกมา คาดว่าจะให้บริการครบถ้วนทั้งหมดได้ภายในไม่เกิน 1 ปี

“คาดว่าเมื่อเปิดให้บริการ JIBEX จะมีผู้ใช้งานจำนวนมาก บริษัทตั้งเป้าไว้ว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 100 ล้านบาทต่อวัน และตั้งเป้ารายได้จากการดำเนินงานในปีแรก 170 ล้านบาท โดยเป็นรายได้ที่มาจากค่าธรรมเนียมการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอล” นายธรรมธีร์กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,348 วันที่ 15 - 17 มีนาคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว