ณัฐนันท์ ประสงค์ชัยกุล ลูกไม้หล่นใต้ต้น@ว่าที่ขาใหญ่ตกแต่งภายใน

17 ธ.ค. 2560 | 16:39 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ธ.ค. 2560 | 23:39 น.
941
ณัฐนันท์ ประสงค์ชัยกุล ทายาทคนเดียวของ นุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเดค-คอนฯ หรือ BKD ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรับเหมาตกแต่งภายในแบบครบวงจรเบอร์ 1 ของเมืองไทย และกำลังจะสยายปีกธุรกิจไปสู่อาเซียน ถือเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงเป็นลูกไม้หล่นใต้ต้น และเป็นว่าที่ขาใหญ่ในวงการธุรกิจรับเหมาตกแต่งภายในตัวจริงเสียงจริงในอนาคต โดยนุชนารถเคยปรารภไว้ว่าอยากจะส่งไม้ต่อให้กับทายาทคนเดียวนี้ภายใน 3 ปีข้างหน้า

ณัฐนันท์ วัยเพียง 27 ปี เรียนจบนิเทศศาสตร์อินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เธอเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่นที่จะเข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัวอย่างจริงจัง แม้เธอจะไม่ได้รํ่าเรียนสายตรงที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรับเหมาตกแต่งภายใน แต่ก็มีความพยายามเรียนรู้งานในทุกแขนงที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญเธอพร้อมที่จะรับงานจิปาถะตามที่ฝ่ายบริหารสั่งการ ไม่ใช่รับฟังคำสั่งเฉพาะจากเอ็มดีผู้ที่เป็นแม่เท่านั้น

[caption id="attachment_241686" align="aligncenter" width="335"] นุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทบาง กอกเดค-คอนฯ หรือ BKD นุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทบาง กอกเดค-คอนฯ หรือ BKD[/caption]

ทายาทคนเดียวของบีเคดี เข้ามาเริ่มทำงานตั้งแต่ปี 2558 ด้วยตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป เธอเล่าให้ฟังว่าเป็นตำแหน่งที่คุณแม่ตั้งขึ้นใหม่ มีหน้าที่สำคัญคือ การรับคำสั่งจากฝ่ายบริหาร โดยเธอต้องเข้าไปเรียนรู้งานกับทุกๆ ฝ่าย ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเธอในการปรับตัว เพราะที่ผ่านมาคุณแม่ มักจะพาเธอติดสอยห้อยตามไปทำงานด้วยเสมอ เธอจึงมีความคุ้นชินกับพนักงานในบริษัทตั้งแต่ระดับคนงานไปจนถึงฝ่ายบริหาร คุ้นชินกับระบบการทำงาน คุ้นชินกับแวดวงธุรกิจรับเหมาตกแต่งภายในโดยไม่ต้องปรับตัวมากมาย

เธอเล่าให้ฟังว่า งานแรกที่ได้รับมอบหมายคือ โปรเจ็กต์ตกแต่งภายในธนาคารที่ประ-เทศศรีลังกา เหตุผลที่เธอได้รับมอบหมายงานชิ้นนี้ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ซึ่งคุณแม่ก็เห็นว่า เธอมีความรู้ความสามารถในด้านการสื่อ สารอยู่แล้ว ก็ตัดสินใจให้เธอทำงานนี้ ผลปรากฏว่าเธอสามารถทำงานได้เสร็จทันตามกำหนดและยังช่วยลดต้นทุนลงได้อีกเยอะ ทำให้โปรเจ็กต์แรกที่ทำมีกำไรสูงมากพอสมควร หลังจากนั้นมีโปรเจ็กต์ใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ช่วงแรกๆ จะมีคุณแม่ คุณป้า เป็นพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำ แต่ปัจจุบันเธอสามารถรับงานได้ด้วยตัวเอง

“การเข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัว มาจากสายเลือดจริงๆ ไม่ใช่แค่การเรียนรู้จากทฤษฎีเพียงอย่างเดียว วิธีการสอนของคุณแม่คือ ปล่อยให้เราหาประสบการณ์ตรงด้วยตัวเอง เรียนรู้ถูกผิดด้วยตัวเอง เพราะคุณแม่เองก็เติบโตมาจากประสบการณ์ตรงเหมือนกัน ซึ่งมันก็ได้ผล แต่ยังไม่ได้เต็มร้อย เพราะมีอีกหลายอย่างที่เราต้องเข้าไปเรียนรู้ในเชิงลึกมากขึ้น”ณัฐนันท์ กล่าวและว่า

อ๊ายยยขายของ-7-1 นอกเหนือจากรับมอบหมายให้ไปหาลูกค้าแล้ว เธอต้องเข้าไปศึกษาเกี่ยวกับค่าแรงช่างควบคู่ไปด้วย จากเดิมที่นุชนารถ เคยเป็นแม่งานหลัก ซึ่งการพิจารณาค่าแรงช่างได้อย่างมีประสิทธิภาพต้องเรียนรู้และเข้าใจรายละเอียดยิบย่อยในงานตกแต่งภายใน

นั่นเป็นเพียงการเรียนรู้ประสบการณ์จริงจากผู้เป็นแม่ แต่ในส่วนของณัฐนันท์ เองในฐานะที่เธอเป็นคนรุ่นใหม่ก็ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ เธอพยายามหาเวลาศึกษาเทคโนโลยีและวิทยาการสมัยใหม่เข้ามาปรับปรุงและต่อยอดระบบการทำงานในปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้น ควบคู่กับการจัดโครงสร้างองค์กรใหม่เพื่อให้ทีมงานแข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะทีมการตลาดถือเป็นหัวใจสำคัญในการเข้าไปรับงาน เพราะนอกจาก บีเคดี จะเป็นผู้นำธุรกิจรับเหมาตกแต่งภายในประเทศแล้ว ยังมีเป้าหมายเป็นผู้นำอาเซียนภายใน 5 ปี

ภารกิจหลักของณัฐนันท์ ไม่ใช่แค่การเรียนรู้การบริหารกิจการเท่านั้น เธอยังต้องทำหน้าที่ในการพบปะกับผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นในงาน OppDay จากก่อนหน้านี้จะมีคุณแม่ และคุณป้า (กนกนารถ รัตนสุวรรณชาติ) ให้ข้อมูลกับนักลงทุน แต่ปัจจุบันเธอสามารถทำหน้าที่นี้แทนทั้งหมด ซึ่งหลังจากที่ออกมาพบปะผู้ลงทุนในงาน Opp Day ไม่กี่ครั้ง เธอก็ได้รับมอบหมายให้ไปโรดโชว์ทั้งที่ฮ่องกง พบปะกับนักลงทุนสถาบันที่สนใจอยากเข้ามาลงทุนในหุ้น BKD

“ครั้งแรกที่ต้องไปให้ข้อมูลนักลงทุนตื่นเต้นมาก พูดไม่รู้เรื่อง เหมือนกับเป็นการท่องจำ แต่พอออก บ่อยๆ ก็รู้ถึงปัญหา เราต้องเตรียมข้อมูล Presentation เอง จะได้มีความเข้าใจ พอทำบ่อยขึ้น รู้ลึกในเชิงธุรกิจมากขึ้น ทำให้เกิดความเชื่อมั่น ทุกวันนี้เราก็จะทำหน้าที่หลักในการไปพูดหรือพบปะกับนักลงทุนแทนคุณแม่” ณัฐนันท์กล่าว

หัวใจสำคัญสุดของการเข้ามารับไม้ต่อในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของบีเคดีและทายาทคนเดียวของนุชนารถ ไม่ใช่แค่ทำงานได้ รับงานได้ บริหารจัดการภายในได้เท่านั้น แต่ต้องไม่หยุดที่จะเรียนรู้ หาแนวทาง หากลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อที่จะสร้างกำไรและผลประโยชน์กลับสู่บริษัทและผู้ถือหุ้นให้มากที่สุด นี่คือพันธกิจสำคัญที่ทายาทธุรกิจรับเหมาตกแต่งภายในอันดับ 1 ของเมืองไทย กล่าวทิ้งท้าย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,322 วันที่ 14 - 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9