บล.คันทรี่ฯ ‘บูติกโบรกเกอร์’ เอกลักษณ์ด้านบริการ-งานวิจัย แข่งสบายงานวาณิชธนกิจ

04 มี.ค. 2560 | 12:00 น.
บล.คันทรี่ฯ อัพเกรดเป็นบูติก โบรกเกอร์ ผนึก“แอนดรู สต๊อส” เพิ่มคุณภาพงานวิจัย ครอบคลุม SET100 รวมห้องค้าให้บริการเป็นศูนย์กลางซื้อขาย ลดต้นทุนเพิ่มกำไร รุกให้บริการรายย่อย เสริมนักลงทุนสถาบันชูทีมงานที่ปรึกษาการเงิน-พอร์ตเทรดแกร่ง แข่งสบาย

นายวีรพัฒน์ เพชรคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป ( CGS ) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปี 2560 บริษัทมุ่งกลับมาให้บริการค้าหลักทรัพย์ เน้นนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย หลังจากที่ขายห้องค้าหลักทรัพย์ 21 สาขาและพอร์ตลูกค้ารายย่อย สร้างรายได้แล้ว ซึ่งห้องค้าหลักทรัพย์บางส่วนที่เหลืออยู่ กระจายยังจังหวัดต่าง ๆ และในกรุงเทพฯ ปริมณฑล จะรวมห้องค้าและพัฒนาเป็นศูนย์กลาง (ฮับ ) การให้บริการลูกค้าที่ทันสมัย เช่นที่กรุงเทพ จะมีศูนย์กลางซื้อขายอยู่ที่สีลมคอมเพล็กซ์ และอาคารสินธร ส่วนสาขามหาชัย มีแผนพัฒนาเป็นศูนย์กลาง ในเดือนมีนาคมนี้ และแผนเมืองใหญ่ 5 จังหวัด การพัฒนาเป็นฮับ เป็นการช่วยแชร์ต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนดำเนินงานให้ลดลง ทำให้ต้นทุนสาขาต่ำลง และช่วยให้ การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มการให้บริการที่ครบถ้วน

นอกจากนี้บริษัทได้เพิ่มคุณภาพงานวิจัยหลักทรัพย์ ให้ครอบคลุมหลักทรัพย์ ใน SET 100 นอกเหนือจากหุ้นขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยร่วมมือกับ Andrew Stotzประธาน CFA ประเทศไทย เซ็นสัญญาต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มาช่วยเสริมคุณภาพงานวิจัยให้ครอบคลุมหลักทรัพย์ ใน SET 100 นอกเหนือจากหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่ทำอยู่แล้ว ซึ่งการพัฒนางานวิจัยนี้ ช่วยเสริมให้กับลูกค้าสถาบัน ที่บริษัทมีแผนเพิ่มนักลงทุนสถาบัน จากสัดส่วนเดิม 20 % เป็น 30 % และนักลงทุนรายย่อย 70 % โดยมีแผนเพิ่มเจ้าหน้าที่การตลาดสถาบัน รองรับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนไฮเน็ตเวิร์ธ

สำหรับโครงสร้างรายได้ 9 เดือน สิ้นสุด 30 กันยายน 2559 แบ่งเป็นรายได้ค้าหลักทรัพย์ (คอมมิสชัน ) สัดส่วน 71 % , รายได้พอร์ตเทรด 10 % และรายได้วาณิชธนกิจ 6.5 % ปี 2560 มีแผนเพิ่มรายได้พอร์ตเทรด เป็น 20 % และวาณิชธนกิจ 15 % โดยลดรายได้ค่านายหน้าค้าหลักทรัพย์เหลือ 65 %

“ ภาพของบล.คันทรี่ฯ หลังจากมีการปรับโครงสร้างขายพอร์ตรายย่อยและสาขาออกไป ก็ได้เริ่มจัดการบริหารให้มีประสิทธิภาพ หลังจากนี้บล.คันทรี่ฯ จะเป็นบูติก โบรกเกอร์ ขนาดกลาง ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น หุ้นกู้ , กองทุนส่วนบุคคล เริ่มให้บริการภายในไตรมาส 1 นี้ บริการ SLB รวมทั้งการเสริม งานวิจัยครอบคุลมสถาบันและนักลงทุน ทุกกลุ่ม ปรับและเพิ่มสาขาที่มีขนาดใหญ่ รองรับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า ปี 2560 ตลาดมีความผันผวน เป็นผลดีกับธุรกิจพอร์ตเทรด ซึ่งบริษัทมีทีมงานที่มีความชำนาญ 14 คน มีวงเงินลงทุน 30 ล้านบาท สูงสุด 300 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับสภาพตลาดรวม และมีแผนขยายวงเงินพอร์ตเทรดรองรับการลงทุนที่ผันผวน

นายอัสวานี อาฮูจา กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บล.คันทรี่ กรุ๊ปฯ กล่าวว่า ปี 2560 มีดีลที่ปรึกษาควบรวมกิจการ และการนำบริษัทเข้าระดมทุนซื้อขายในตลาดทุน รวม 10 บริษัท ซึ่งดีลควบรวมกิจการ มีขนาดรวม 12,000 – 15,000 ล้านบาท

ซึ่งปีที่ผ่านมา ดีลM & A มีมูลค่า 8,000 ล้านบาท เช่น เป็นที่ปรึกษาหาทุนและผู้ร่วมทุนใหม่ ให้กับโรงพยาบาล ปิยะเวช มูลค่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งมีบริษัท โรงพยาบาลบางปะกอกฯ เป็นทุนใหม่ในร.พ.ปิยะเวช

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,240 วันที่ 2 - 4 มีนาคม พ.ศ. 2560