นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตร มีผลสำเร็จงานวิจัยที่มีศักยภาพพร้อมที่จะนำไปต่อยอดใช้ประโยชน์ได้จริงและขยายผลนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนายกระดับการเกษตรของประเทศไทย สู่เกษตรมูลค่าสูงตามนโยบายรัฐบาลและนโยบายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เป็นประธาน กล่าวเปิดงาน “ไข่ผำ – วานิลลา : เจาะลึกโอกาสธุรกิจพืชเทรนด์ใหม่” และ ปาฐกถาพิเศษ “ทิศทางพืชมูลค่าสูงและโอกาสของเกษตรไทย” ณ ห้องประชุมอาคารหนังสือพิมพ์ข่าวสด และมี Special Talks: “Renewable ปรับเกษตรไทย สู่เกษตรมูลค่าสูง” โดย อธิบดีกรมวิชาการเกษตร และนายพีรพันธุ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตร มีนโยบายพัฒนาสินค้าเกษตรที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารในอนาคตอย่างยั่งยืนดังนี้
1.ตั้งกองวิจัยพัฒนาพืชเศรษฐกิจใหม่และการจัดการก๊าซเรือนกระจกสำหรับภาคเกษตร (กศก.)
2. ขับเคลื่อนการผลิตพืชคาร์บอนต่ำ
3. มุ่งเน้นการวิจัยพืชมูลค่าสูง เช่น ไม้ผล สมุนไพร เห็ด และผำ
4. พัฒนาพันธุ์พืชด้วยเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม (Gene Editing : GEd)
5. ยกระดับการเกษตรไทยสู่ศูนย์กลางการเกษตรอาหารปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของโลก
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวต่อว่า กรมวิชาการเกษตร ได้มองเห็นโอกาสทางการตลาดของสินค้าอาหารสุขภาพ Future Food และ Function Food อย่างชัดเจน โดยมีนโยบายและมาตรการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าอาหารสุขภาพดังนี้
1.ส่งเสริมการผลิตและพัฒนาสินค้าอาหารแห่งอนาคต (ไข่ผำ ถั่วเหลือง และสมุนไพร)
2. พัฒนามาตรฐานและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ GAP – พืชอาหาร (มกษ. 9001-2564)
นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตร ยังยึดนโยบายของ รมว.เกษตรฯ "ตลาดนำการวิจัย" เป็นกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยให้ก้าวสู่การผลิตพืชมูลค่าสูงเชิงการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพการผลิตพืชมูลค่าสูงเชิงการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิต ไข่ผำ ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรมูลค่าสูง
ผ่านการพัฒนาภาคีเครือข่าย และการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตร ได้จัดอบรมหลักสูตร “การเพาะเลี้ยงไข่ผำเชิงพาณิชย์ตามมาตรฐาน GAP”จำนวน 8 รุ่น เกษตรกรที่ผ่านการอบรม 400 รายทั่วประเทศไทย ส่งเสริมการเพาะเลี้ยงไข่ผำตามมาตรฐานพืชอาหาร (มกษ. 9001-2564) เพื่อให้ไข่ผำที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และตรงตามความต้องการของผู้บริโภคและตลาดซึ่งการอบรมดังกล่าวจะเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยี และยกระดับการเพาะเลี้ยงไข่ผำให้ได้ผลผลิตสูง มีคุณค่าทางโภชนาการ และได้มาตรฐานครบวงจร ตั้งแต่การผลิต การเก็บเกี่ยว การเก็บรักษา และแปรรูปผลิตภัณฑ์
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวในตอนท้ายว่า กรมวิชาการเกษตร มุ่งมั่นเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการเกษตรไทยและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต กำหนดทิศทางและมูลค่าทางการตลาดของสินค้าเกษตรในอนาคต เพื่อรับมือกับกระแสความต้องการของตลาดโลกผ่านการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมด้วย ING Modelได้แก่ ใช้พันธุ์ดี พัฒนาด้วยเทคนิคจีโนม ที่ให้ผลผลิตสูงต้านทานโรคทนสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม, การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อลดแรงงาน เช่น เครื่องจักร โดรนการจัดการน้ำ ปุ๋ยตามวิเคราะห์ดินและพืช ที่แม่นยำและเหมาะสมส่งผลดีในการลดใช้สารเคมี เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร เพื่อสู่เกษตรยั่งยืน