วานนี้ (17 มีนาคม 2568) เวลา 15.30 น. ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนไทย ร่วมประชุมหารือ เน้นความโปร่งใสและธรรมาภิบาล ขับเคลื่อนตลาดทุนไทย เชื่อตลาดหลักทรัพย์ไทยยังสร้างโอกาสให้กับนักลงทุนทุกระดับ โดยมีนางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต. นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมหารือ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ทุกฝ่ายเร่งผลักดันนโยบายที่ส่งเสริมความเป็นธรรมและความโปร่งใส โดยเฉพาะการตรวจสอบเหตุการณ์และคดีทางการเงินต่าง ๆ โดยย้ำให้ทุกฝ่ายร่วมกันผลักดันและเสริมสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุนไทยให้เห็นเป็นรูปธรรม
นายกฯ ยังเน้นย้ำความสำคัญของการสร้างความเท่าเทียมในตลาดหลักทรัพย์ โดยไม่แบ่งแยกระหว่างนักลงทุนไทยหรือต่างชาติตลอดจนกองทุนสถาบันต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของตลาดหลักทรัพย์ที่มุ่งเน้นการสร้างความเท่าเทียมและความโปร่งใสในทุกระดับ
ภายหลังการหารือ นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า นายกฯ ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันปรับปรุงกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน โดยเฉพาะการดูแลนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงการกำกับดูแลการส่งคำสั่งซื้อขายที่มีความถี่สูง (High Frequency Trading - HFT) และการขายชอร์ต (Short Sell) ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพคล่องของตลาด
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า นายกฯ ได้ติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดการบูรณาการในการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความยุติธรรมและความเป็นธรรมในตลาดทุน
ทั้งนี้นอกจากการนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายแล้ว ยังต้องสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทุกกลุ่มผ่านมาตรการต่าง ๆ เช่น การขึ้นป้ายบริษัทจดทะเบียนที่ไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ซึ่งจะช่วยสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับตลาดหุ้นไทย
ทั้งนี้ ทุกฝ่ายต่างมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างความมั่นคงและส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยนโยบายต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินการมุ่งผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนเพิ่มมูลค่าและเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนไทยให้แข็งแกร่งและเป็นที่เชื่อมั่นในระดับสากลต่อไป