Liberator ชี้ตลาดหุ้นไทยวันนี้ลุ้นฟื้นตัว กรอบ 1,160-1,190 จุด

17 มี.ค. 2568 | 09:35 น.
อัปเดตล่าสุด :17 มี.ค. 2568 | 09:35 น.

บล.ลิเบอเรเตอร์ ส่อง SET Index วันนี้ 17 มี.ค.68 มีโอกาสฟื้นตัว ในกรอบ 1,160-1,190 จุด หลังตลาดหุ้นไทย ตอบรับปัจจัยลบมากเกินไปแล้ว

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ประเมินภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ 17 มี.ค.68 คาด SET Index มีแนวโน้มฟื้นตัว ในกรอบ 1,160-1,190 จุด ตลาดตอบรับปัจจัยลบมากเกินไป จนทำให้ดัชนีเข้าสู่ระดับ Valuation ที่น่าสนใจ เพิ่มโอกาสฟื้นตัว

สำหรับสัปดาห์นี้ คาดตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงแกว่งผันผวนท่ามกลางหลายปัจจัยที่น่าติดตาม ทั้งการประชุมธนาคารกลางที่สำคัญหลายแห่ง นำโดย 18-19 มี.ค. นี้ ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คาดรอบนี้ยังคงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% เช่นเดิม หลังจากที่ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังแนะเกาะติด คืนวันที่ 19 มี.ค. จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) โดยคาดยังคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.25-4.50% ตามเดิม เช่นกัน แม้ว่าภาพเงินเฟ้อสหรัฐฯจะเริ่มชะลอตัวเล็กน้อย รวมทั้งภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็เริ่มมีความเสี่ยงมากขึ้น

แต่อย่างไรก็ดี ทางฝ่ายยังเชื่อว่า FED จะยังรอดูความชัดเจนของนโยบายภาษีของทรัมป์ก่อน ตัดสินใจลดดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป ส่วนวันที่ 20 มี.ค. 68 จะมีการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ ทางฝ่ายคาดว่า BOE จะดอกเบี้ยที่ระดับ 4.5% เช่นกัน

ส่วนปัจจัยในประเทศ เกาะติดการรายงานตัวเลขส่งออกไทย คาดยังขยายตัวได้ดี ผสานกับจับตาการประชุม ครม. จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ เพิ่มเติมหรือไม่ โดยสำหรับ SET เราประเมินว่าระดับปัจจุบันตอบรับปัจจัยลบต่างๆ ไปมากแล้ว

โดย Valuation ลงมาเทรดที่บริเวณ PE 12.3 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ไม่แพง ดังนั้นจึงมอง SET อยู่ในระดับที่น่าทยอยสะสม โดยเน้นกลุ่มหุ้นโซนล่าง ที่แนวโน้มกำไรยังขยายตัวได้ดี

ปัจจัยที่ต้องจับตา

17 มี.ค.68

  • ยอดค้าปลีก สหรัฐฯ
  • ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีน
  • ยอดค้าปลีกจีน

18 มี.ค.68

  • การเริ่มสร้างบ้านสหรัฐฯ
  • ใบอนุญาตก่อสร้างสหรัฐฯ
  • ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ

19 มี.ค.68

  • การประชุม FED
  • การประชุม BOJ
  • สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ สหรัฐฯ
  • เงินเฟ้อ CPI ยูโรโซน

หุ้นเด่นแนะนำ

CCET (ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 9.00 บาท)

  • คาดยอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้นในช่วงไตรมาส 1/68 จะกลับมาขยายตัว และเร่งมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 68 และปี 69 จากกำลังการผลิตที่มากขึ้น
  • คาดผลกระทบจากประเด็น Global Minimum Taxค่อนข้างจำกัด เนื่องจากสามารถนำค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเงินเดือน และการลงทุนใน Fixed assets ไปหักลดหย่อนได้
  • Valuation ปัจจุบันกลับมาเทรดที่บริเวณ PEG25E 0.5 เท่า เป็นระดับที่น่าทยอยสะสม