“เผ่าภูมิ” เตรียมใช้ภาษีสรรพสามิตดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำ

07 มี.ค. 2568 | 13:41 น.
อัปเดตล่าสุด :07 มี.ค. 2568 | 13:45 น.

“เผ่าภูมิ โรจนสกุล” รมช.คลัง ตรวจโรงงานน้ำมันเครื่องบินคาร์บอนต่ำ (SAF) เตรียมใช้กลไกภาษีสรรพสามิต จูงใจการผลิต ดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำ

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตนและคณะผู้บริหารกรมสรรพสามิต ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบอุตสาหกรรมน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันราย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ณ จังหวัดระยอง เพื่อเตรียมความพร้อมกำหนดพิกัดภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานคาร์บอนต่ำ (SAF : Sustainable Aviation Fuel) 

“เผ่าภูมิ” เตรียมใช้ภาษีสรรพสามิตดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำ

ทั้งนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมในการกำกับดูแลและใช้ภาษีสรรพสามิตเป็นกลไกให้ไทยเป็นผู้นำสำหรับเชื่อเพลิงเครื่องบินชนิดใหม่นี้ โดยกรมสรรพสามิตกำลังดำเนินการกำหนดนิยาม คุณสมบัติ และอัตราภาษีของ SAF เพื่อจูงใจต่อการขยายกำลังการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีของ SAF โดยกำลังพิจารณาให้ภาษีน้ำมันชนิดใหม่นี้ดึงดูดกว่าน้ำมันแบบเดิมหรือ JET A1

สำหรับการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานคาร์บอนต่ำ (SAF) เป็นการนำผลิตภัณฑ์ชีวภาพมาใช้ร่วมกับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน ซึ่งการใช้ SAF สามารถลดการปล่อย CO2 ได้ถึงร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานทั่วไป มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ของไทย ภายในปี ค.ศ. 2050 

โดยเป็นไปตามมาตรฐาน ISCC CORSIA (International Sustainability and Carbon Certification – Carbon Offsetting and Reduction Scheme for International Aviation) ที่เป็นมาตรฐานสากลที่ยอมรับในอุตสาหกรรมการบิน 

สำหรับระยะแรกคาดว่าไทยจะมีการผลิตอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านลิตรต่อปี โดยใช้กับเที่ยวบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ และจะมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการพลังงานทดแทนของอุตสาหกรรมการบินที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วภูมิภาค พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการบินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

“เผ่าภูมิ” เตรียมใช้ภาษีสรรพสามิตดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำ

ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตพร้อมให้การสนับสนุนกระบวนการผลิตเชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบทางการเกษตรและเกิดการนำของเสียกลับมาใช้ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นปาล์ม มัน อ้อย รวมถึงน้ำมันพืชใช้แล้ว  และเพื่อส่งเสริมศักยภาพในการผลิตพลังงานชีวภาพของไทย เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำของภูมิภาคอาเซียนต่อไป