แพทองธาร ประกาศดึงยุโรปเที่ยวไทย 10 ล้านคน หวังเป้ารายได้รวมแตะ 3.5 ล้านล้าน

05 มี.ค. 2568 | 20:58 น.
อัปเดตล่าสุด :05 มี.ค. 2568 | 21:08 น.

นายกฯ แพทองธาร ประกาศบนเวที ITB เบอร์ลิน ดึงนักท่องเที่ยวยุโรป เที่ยวไทย 10 ล้านคน ปี 2568 ดันเป้าหมายรายได้ แตะ 3.53 ล้านล้านบาท ยกระดับไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก มีกิจกรรมใหญ่ตลอดปี

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (5 มีนาคม 2568) เวลา 12.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ช้ากว่ากรุงเทพฯ 6 ชั่วโมง) ณ CityCube กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานและกล่าวปาฐกถาในงาน Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand ซึ่งจัดขึ้นภายใต้งาน Internationale Tourismus-Börse Berlin 2025 (ITB Berlin 2025) โดยสรุปสาระสำคัญของปาฐกถา ดังนี้ 

 

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในงาน Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand ซึ่งจัดขึ้นภายใต้งาน ITB Berlin 2025

 

รัฐบาลประกาศให้ปี 2568 เป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 โดยรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวในฐานะหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งในปี 2567 รัฐบาลประสบความสำเร็จในการเพิ่ม GDP ของประเทศจากการท่องเที่ยว

โดยประเทศไทยได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเกินเป้าหมาย 35 ล้านคน สร้างรายได้รวมกว่า 47,400 ล้านยูโร หรือประมาณ 1.71 ล้านล้านบาท คิดเป็น 15% ของ GDP 

สำหรับปี 2568 นี้รัฐบาลตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 39 ล้านคน สร้างรายได้ 98,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 3.53 ล้านล้านบาท โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากยุโรป 10.62 ล้านคน ซึ่งจะสร้างรายได้ 24,220 ล้านยูโร หรือประมาณ 8.73 แสนล้านบาท

ทั้งนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการสำคัญ 5 ประการ ผ่านวิสัยทัศน์ Thailand Tourism เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ได้แก่

 

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในงาน Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand

 

1. การเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทาง

โดยเฉพาะการปรับปรุงมาตรการการตรวจลงตรา เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของนักท่องเที่ยว ซึ่งรวมถึงการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับชาวต่างชาติจาก 93 ประเทศ/ดินแดน การตรวจลงตราประเภท Long Term Resident Visa และการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival) 

ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังได้นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ เช่น ระบบ E-Visa ระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System) ในสนามบิน 6 แห่งทั่วประเทศ และเตรียมให้บริการระบบ ตม.6 ออนไลน์ (Thailand Digital Arrival Card: TDAC) 
นอกจากนี้ รัฐบาลคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด โดยเสริมสร้างระบบตอบสนองเหตุฉุกเฉินและมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดในสถานที่ท่องเที่ยว จึงมั่นใจได้ว่ารัฐบาลห่วงใยถึงความปลอดภัยและความมั่นใจของนักท่องเที่ยว 

2. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

รัฐบาลพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งเป้าเพิ่มขีดความสามารถและผู้ใช้บริการเป็น 250 ล้านคนต่อปี ผ่านการดำเนินการ ดังนี้ 

  • ขยายสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง 
  • ปรับปรุงสนามบินภูมิภาค ได้แก่ สนามบินอู่ตะเภาภูเก็ต และเชียงใหม่ 
  • ก่อสร้างสนามบินใหม่ เช่น สนามบินอันดามันและล้านนา 

นอกจากนี้ รัฐบาลผลักดันการเพิ่มเที่ยวบิน และเปิดเส้นทางการบินใหม่ ๆ สู่ประเทศไทย พร้อมทั้งขยายเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงไทยกับลาวและจีน และรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีและกระจายการท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ทั่วประเทศ

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในงาน Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand ซึ่งจัดขึ้นภายใต้งาน ITB Berlin 2025

 

3. ซอฟต์พาวเวอร์ไทย

ด้วยประเทศไทยมีทุนทางวัฒนธรรมที่อุดมสมบูรณ์และเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซอฟต์พาวเวอร์ของไทยไม่เพียงอยู่ในความภาคภูมิใจของชาติ แต่ยังอยู่ในรอยยิ้ม อาหาร ศิลปะ และการเป็นเจ้าบ้านที่ต้อนรับอย่างอบอุ่น และนำเสนอให้เห็นในซีรีย์ The White Lotus

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพและเอกลักษณ์ของไทย รวมถึงแรงงานที่มีทักษะสูงและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และบริการของประเทศ

4. ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และส่งเสริมสุขภาพ

รัฐบาลมุ่งให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวด้านการแพทย์และสุขภาพ ด้วยราคาที่แข่งขันได้ ความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย สถานพยาบาลที่มีมาตรฐานสากลในภูมิภาค และการต้อนรับที่อบอุ่นของคนไทย 

จึงทำให้การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และส่งเสริมสุขภาพของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 1 ล้านล้านบาท โดยไทยพร้อมเปิดรับการลงทุนและขยายระบบนิเวศการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และส่งเสริมสุขภาพอย่างครบวงจรต่อไป

5. การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ถือเป็นอีกกุญแจสำคัญที่รัฐบาลกำลังพัฒนาการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และร่วมมือกับทุกภาคส่วน สนับสนุนมาตรฐานด้านความยั่งยืนในแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน (Green Destinations) ทั่วประเทศเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ส่งเสริมความสมดุล และนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ทุกคน 

โดยการได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพการประชุมระดับโลก Global Sustainable Tourism Conference 2026 (GSTC 2026) สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของไทยในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและครอบคลุมมากขึ้นสำหรับการท่องเที่ยว

 

แพทองธาร ประกาศดึงยุโรปเที่ยวไทย 10 ล้านคน หวังเป้ารายได้รวมแตะ 3.5 ล้านล้าน

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปี 2568 รัฐบาลประกาศให้เป็นปี “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้าร่วมกิจกรรมซึ่งจะจัดขึ้นตลอดทั้งปี เริ่มจากเดือนเมษายน การเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทย Summer Festival MahaSongkran 

การฉลอง Pride Month 2025 ในเดือนมิถุนายน เทศกาลลอยกระทง Loi Krathong : Rivers of Light ในเดือนพฤศจิกายน และการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ช่วงปลายปีในงาน Amazing Thailand Countdown โดยไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก เช่น FIVB Women’s Volleyball World Championship 2025 และ SEA Games 2025