ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีการปรับเปลี่ยนแนวทางการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการจ่ายค่าโดยสารรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสำหรับบัตรสวัสดิการฯ ตามมาตรฐานกลางระบบตั๋วร่วม (แมงมุม) 2.5 หรือที่เรียกว่า บัตรสวัสดิการฯ Version 2.5
การเปลี่ยนแปลงหลักที่สำคัญคือ การยกเลิกสิทธิในการจ่ายค่าโดยสารเกินวงเงิน 500 บาทต่อเดือน ซึ่งเดิมเคยอนุญาตให้จ่ายเกินได้ 1 ครั้งต่อเดือน โดยหักยอดเงินส่วนเกินจากวงเงินในเดือนถัดไป
การปรับเปลี่ยนครั้งนี้เกิดขึ้นตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการฐานรากและสังคม ในการประชุมครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงระบบการบริหารจัดการสวัสดิการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่เคยใช้สิทธิเกินวงเงินไปแล้ว กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) ได้กำหนดแนวทางการจัดการดังนี้:
1. กรณีผู้ถือบัตรที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565
2. กรณีผู้ถือบัตรที่ไม่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565
ปัจจุบันสามารถใช้กับรถไฟฟ้า รฟม. ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง
ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ได้รับวงเงินค่าโดยสารรถ ขสมก. ระบบ e-Ticket หรือรถไฟฟ้า จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน
เฉพาะบัตรสวัสดิการฯ Version 2.5 (บัตรสวัสดิการฯ ตามมาตรฐานกลางระบบตั๋วร่วม หรือแมงมุม) เท่านั้นที่สามารถแตะประตูอัตโนมัติได้
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เสนอแนะให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพัฒนาบัตรประจำตัวประชาชนให้สามารถรองรับการบริการต่างๆ ของภาครัฐ รวมถึงระบบขนส่งสาธารณะแบบทันที ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนมากยิ่งขึ้นในอนาคต
การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์การใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการจ่ายค่าโดยสารรถไฟฟ้าครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปรับปรุงระบบสวัสดิการให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ควรวางแผนการใช้จ่ายให้อยู่ภายในวงเงิน 500 บาทต่อเดือนที่ได้รับการจัดสรร เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากสวัสดิการที่รัฐจัดให้
อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บัตรสวัสดิการฯ สามารถสอบถามได้ที่กรมบัญชีกลาง หรือสายด่วนศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน โทร 1111