“กทพ.” เปิดรายได้ปี 67 แตะ 1.9 หมื่นล้าน ปักธงปี 68 ประมูล 2 ทางด่วน

10 ก.พ. 2568 | 10:40 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.พ. 2568 | 10:44 น.

“กทพ.” กางรายได้ปี 67 แตะ 1.9 หมื่นล้านบาท เตรียมนำร่องแผนประมูล 2 ทางด่วนกะทู้-เกษตร กว่า 3 หมื่นล้านบาท จ่อชงครม.ไฟเขียวภายในไตรมาส 1 ปีนี้ คาดเปิดให้บริการปี 72

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานของ กทพ.ในปี 2567 นั้นพบว่า กทพ.มีรายได้รวมประมาณ 19,177.08 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้ค่าผ่านทาง 13,465.27 ล้านบาท และรายได้อื่น 5,711.81 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 1-2% 

ส่วนกำไรเพิ่มขึ้นราว 2-3% เกิดจากการลดต้นทุนบริหารจัดการ รวมไปถึงการปรับลดพนักงานให้สอดคล้องกับการนำเอาเทคโนโลยีมาบริการผู้ใช้ทางแทน ทำให้จำนวนพนักงานจาก 5,500 คน ปัจจุบันเหลือราว 5,000 คน 

นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ในปี 2568 กทพ.ยังคงมีแผนพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษเพื่อให้บริการผู้ใช้ทาง และเพิ่มรายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการผลักดัน 2 โครงการเรือธงปีนี้ วงเงินลงทุนรวมกว่า 30,000 ล้านบาท ประกอบด้วย

โครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ช่วงถนนประเสริฐมนูกิจ – ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ มูลค่าลงทุน 16,960 ล้านบาท และโครงการทางพิเศษ สายกะทู้ - ป่าตอง มูลค่าลงทุน 14,670 ล้านบาท 
 

ทั้งนี้สถานะปัจจุบัน 2 โครงการ คาดว่าจะมีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในไตรมาส 1 ปีนี้ ซึ่งโครงการดังกล่าว กทพ.ได้ศึกษารายละเอียดและเตรียมพื้นที่เพื่อเริ่มงานก่อสร้างทันที 

อย่างไรก็ดีคาดว่าหากผ่านการเห็นชอบจาก ครม.จะเปิดประกวดราคาในช่วงกลางปี และคาดว่าจะได้ตัวเอกชนในเดือน ต.ค.2568 เพื่อเริ่มก่อสร้างต้นปี 2569 และเปิดให้บริการในปี 2572

ส่วนรูปแบบดำเนินโครงการทางด่วนภูเก็ต แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้ - ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กิโลเมตร และระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่ - เกาะแก้ว – กะทู้ ระยะทาง 30.62 กิโลเมตร ปัจจุบันจะเร่งดำเนินการส่วนระยะที่ 1 ช่วงกะทู้ - ป่าตองก่อน เนื่องจากโครงสร้างงานนี้จะเป็นการก่อสร้างงานอุโมงค์ จึงคาดว่าต้องใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปีแล้วเสร็จ 
 

นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ด้านระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่ - เกาะแก้ว - กะทู้ คาดว่าจะเสนอ ครม.ภายในปี 2569 เนื่องจากคาดว่าเส้นทางนี้จะใช้เวลาก่อสร้างราว 3 ปีแล้วเสร็จ ซึ่งโครงการทางด่วนจังหวัดภูเก็ตจะแล้วเสร็จเปิดให้บริการครบทั้งเส้นทางในช่วงเวลาใกล้เคียงกันประมาณปี 2572 

ขณะที่รูปแบบการจัดเก็บค่าผ่านทาง กทพ.จะเปิดให้เอกชนมาร่วมลงทุนดำเนินงานบริหารจัดการและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance: O&M) ในรูปแบบ PPP Gross Cost ภาครัฐจัดเก็บรายได้ทั้งหมดและชดเชยค่าตอบแทนให้เอกชน 

นอกจากนี้การลงทุนทางพิเศษสายใหม่แล้ว กทพ.จะผลักดันโครงการพื้นที่เชิงพาณิชย์ใต้ทางพิเศษมาเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน อาทิ พื้นที่บริเวณใต้ทางพิเศษเพลินจิต พื้นที่ประมาณ 4.5 ไร่, โครงการการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษบริเวณบางโปรง พื้นที่ 60 ไร่ 

อย่างไรก็ตามโครงการนี้ กทพ.ศึกษามูลค่าลงทุนรวมประมาณ 2,324 ล้านบาท โดยจะเปิดประมูลจัดหาเอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Net cost สถานะปัจจุบันอยู่ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณา คาดว่าจะเสนอ ครม.ได้ภายในปีนี้