รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบการสรรหาพันธมิตรของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) หรือ ไอแบงก์ โดยที่ประชุมมอบหมายให้ดำเนินการสรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านการเงินตามหลักศาสนาอิสลามเพื่อเข้าร่วมลงทุนใน ธอท.
โดยให้คำนึงถึงผลประโยชน์ ร่วมกันอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม และให้ความสำคัญกับการให้บริการในทุกพื้นที่ที่มีชาวไทยมุสลิม เพื่อสร้าง ความแข็งแกร่งให้กับ ธอท. ในการให้บริการทางการเงินที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม รองรับความต้องการ ของชาวไทยมุสลิมได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง จะไม่เพิ่มทุนใน ธอท. โดยการสรรหาพันธมิตรร่วมลงทุน จะต้องไม่ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังใน ธอท. ต่ำกว่า 30% ในช่วง 1 ปี นับจากวันที่ การสรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนเสร็จสมบูรณ์ที่เหมาะสมและเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม ในการหาพันธมิตรร่วมลงทุนจะต้องมีข้อเสนอเกี่ยวกับการดูแลพนักงาน ธอท. รวมทั้งในขั้นตอนการสรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ขณะเดียวกัน ยังมอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณารายละเอียดการถือหุ้น วิธีการ ราคา และสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังที่เหมาะสม โดยให้พิจารณาให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้กระทรวงการคลังหารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อนำความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ทั้งกรณีสถานะความเป็นรัฐวิสาหกิจของ ธอท. ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
หากสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังใน ธอท. ต่ำกว่า 50% และอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในการผ่อนผันการถือหุ้น และจำนวนกรรมการของบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยของ ธอท. ด้วย