”พิชัย“ ถก USCC - USABC บิ๊กเอกชนสหรัฐ ชูสิทธิพิเศษถือหุ้น 100% ดึงลงทุนไทย

08 ก.พ. 2568 | 12:31 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.พ. 2568 | 12:38 น.

รมว.พาณิชย์ ”พิชัย นริพทะพันธุ์“ เดินทางเยือนสหรัฐ หารือ USCC - USABC และพบภาคเอกชนรายใหญ่กว่า 26 บริษัท ชูจุดแข็ง FTA โครงสร้างพื้นฐาน สิทธิพิเศษถือหุ้น 100% ดึงดูดลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ในไทย

วันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2568) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือกับภาคเอกชนชั้นนำของสหรัฐฯ ประกอบด้วยคณะนักธุรกิจจากสภาหอการค้าสหรัฐฯ (US Chamber of Commerce - USCC) และสภาธุรกิจสหรัฐฯ–อาเซียน (US-ASEAN Business Council - USABC) ณ สำนักงาน U.S. Chamber of Commerce กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับรัฐบาลและภาคเอกชนสหรัฐฯ 

 

”พิชัย“ ถก USCC - USABC บิ๊กเอกชนสหรัฐ ชูสิทธิพิเศษถือหุ้น 100% ดึงลงทุนไทย

 

ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขยายการค้าและการลงทุนของไทย ซึ่งไทยในฐานะพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก มีจุดแข็งที่เอื้อต่อการลงทุน อาทิ โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรม Data Center และ AI ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เช่น Google, Microsoft และ Amazon เข้ามาลงทุนในไทยแล้ว

นายพิชัย กล่าวว่า ได้มีโอกาสพบกับหอการค้าสหรัฐฯ USCC และสภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐฯ USABC ซึ่งในการหารือมีภาคเอกชนกว่า 26 บริษัทมาพบ ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ทางรัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ก็พยายามส่งเสริมการลงทุนค้า-ลงทุน และในการพบกับภาคเอกชนรายใหญ่ทั้ง 26 บริษัท เช่น Pepsi, Tyson Food, Apple และ Cargill ต่างมีความต้องการขยายการลงทุนกับไทย เพราะไทยเป็นหุ้นส่วนที่ดี 

ดังนั้นทางกระทรวงพาณิชย์ จึงได้เชิญชวนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยอาศัยข้อได้เปรียบของไทย จากข้อตกลง Treaty of Amity ที่ให้สิทธิพิเศษแก่ธุรกิจสหรัฐฯ สามารถถือหุ้น 100% ในไทย ซึ่งเป็นสิทธิที่ไทยไม่เคยมีให้กับประเทศอื่น

ทั้งนี้ทางภาคเอกชนของสหรัฐฯ ก็ยินดีที่ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการทำ FTA กับเอฟตา (สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป ที่มีสมาชิก 4 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตล์) และไทยยังมีแผนที่จะทำ FTA กับอีกหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร และโดยเฉพาะกับอียู ที่มีสมาชิกอีกกว่า 27 ประเทศ โดยนายกรัฐมนตรี เร่งรัดให้สำเร็จภายในปีนี้ และเชื่อว่าภาคเอกชนสหรัฐฯ จะเข้ามาลงทุนมากขึ้นอย่างแน่นอน

 

”พิชัย“ ถก USCC - USABC บิ๊กเอกชนสหรัฐ ชูสิทธิพิเศษถือหุ้น 100% ดึงลงทุนไทย

 

นายพิชัย กล่าวว่า ในการหารือยังได้เน้นย้ำถึงโอกาสทางเศรษฐกิจของไทยที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2567 ประเทศไทยมีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 2567 มูลค่ากว่า 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี การส่งออกโตปี 2567 โตถึง 5.4 % พร้อมชูความพร้อมของไทยในการเป็นศูนย์กลาง Data Center, AI และอุตสาหกรรมอาหาร โดยภาคเอกชนสหรัฐฯ ยังคงจับตานโยบายการค้าของรัฐบาล และมุมมองของภาคเอกชนสหรัฐฯ ต่อไทยยังคงเป็นบวก

โดยเห็นว่าไทยเป็นพันธมิตรที่สำคัญ และเป็นฐานการผลิตที่ดีในภูมิภาคดังนั้น จึงได้เชิญชวนบริษัทสหรัฐฯ ให้เข้ามาลงทุนเพิ่มเติมในอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น เวชภัณฑ์ พลังงาน ดิจิทัล และเกษตรอาหาร ซึ่งกระทรวงพาณิชย์พร้อมให้การสนับสนุนในด้านนโยบายและสิทธิประโยชน์ต่างๆ อย่างเต็มที่ ในการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับสหรัฐฯ

 

”พิชัย“ ถก USCC - USABC บิ๊กเอกชนสหรัฐ ชูสิทธิพิเศษถือหุ้น 100% ดึงลงทุนไทย

 

สำหรับการหารือกับหอการค้าสหรัฐฯ (USCC) สภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐฯ (USABC) ได้มีผู้บริหารจากกว่า 26 บริษัท ได้แก่ Nasdaq, FedEx, The Asia Group, PepsiCo, IBM, Mars, Citi, Organin, Intel, Vriens & Partners, ConocoPhillips, Caterpillar, Seagate, Tyson Food, Apple, DGA-Albright, Stonebridge Group, BowerGroupAsia, S&P Global, Visa, Boeing, Dow, Cargill, 3M และ Viatris เข้าร่วมด้วย

ทั้งนี้ในปี 2567 สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทย (รองจากจีน) ซึ่งมีมูลค่าการค้ารวม 74,484.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 54,956.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น คอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยางอัญมณี รถยนต์ และเครื่องปรับอากาศ และไทยนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 19,528.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีสินค้านำเข้าสำคัญ เช่น น้ำมันดิบ เครื่องจักรกล และเคมีภัณฑ์