16 ล้านคน เตรียมรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 ภายในไตรมาส 2/2568
“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” การันตีแจกเงินดิจิทัลเฟส 3 จำนวน 10,000 บาท สำหรับกลุ่มบุคคลทั่วไปที่มีอายุ 16-60 ปี ใช้จ่ายผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เท่านั้น
แจกเงินดิจิทัลเฟส 3 สำหรับบุคลลทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 16-60 ปี มีความชัดเจนแล้วว่า รัฐบาล จะทำการแจกเงินดิจิทัลเฟส 3 จำนวน 10,000 บาท สำหรับเฟส 3 จะไม่ได้รับเงินสดเหมือนเฟสที่ 1 และ 2 เนื่องจากรัฐบาลต้องการให้ใช้จ่ายผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่ได้ประกาศเป็นนโยบายต่อรัฐสภาไปก่อนหน้านี้
เหตุผลที่ รัฐบาลของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ใช้จ่ายผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เนื่องจากความตั้งใจแรกของรัฐบาลทุกวันนี้ AI เข้ามามีบทบาท และ เทคโนโลยีไปไกลมาก นี่ คือ เครื่องมือเชื่อมระหว่างรัฐบาลกับประชาชน
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับเงินดิจิทัลเฟส 3 หากเป็นผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นทางรัฐ แต่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ หรือ ไม่ครบตามขั้นตอน กถือว่าเป็นผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียน ซึ่งเฟสที่ 3 จะยึดตามหลักเกณฑ์ เดิม คือต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จ และ มีเงื่อนไขเรื่องรายได้ต่างๆ ที่กำหนดไว้ตามเดิม โดยยึดจากการลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นทางรัฐเป็นหลัก
เช็คคุณสมบัติผู้ได้รับเงินดิจิทัลเฟส 3
-
เป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
- สัญชาติไทย
- มีอายุตั้งแต่ 16 -60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน
- ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566 โดยกรมสรรพากรประมวลผลข้อมูล ผู้มีรายได้ 7 วัน ก่อนเปิดลงทะเบียนโครงการ
- เงินฝาก
ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 รวมกันเกิน 500,000 บาท โดยเป็นการตรวจสอบเงินฝาก จำนวน 6 ประเภท ได้แก่
1.เงินฝากกระแสรายวัน
2.เงินฝากออมทรัพย์
3.เงินฝากประจำ
4.บัตรเงินฝาก
5.ใบรับฝากเงิน ผลิตภัณฑ์เงินฝากในชื่อเรียกอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกับข้อ (1) – (5)โดยเงินฝากให้หมายถึงเฉพาะเงินฝากที่อยู่ในรูปสกุลเงินบาทเท่านั้น และไม่รวมถึงเงินฝากในบัญชีร่วม
6.ต้องไม่เป็น
1. ผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
2. ผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
3. ผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
เฟส 2 กลุ่มตกหล่น 2 แสนราย
สำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ สำหรับเงิน 10,000 เฟส 2 รัฐบาลได้โอนเงิน 10,000 บาท ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ 15 กันยายน 2567 และ มีคุณสมบัติตามที่โครงการฯ กำหนด และ ต้องลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟนภายในวันที่ 15 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ระบบได้เปิดให้กลุ่มผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนได้ตรวจสอบสิทธิผ่านแอปฯ ทางรัฐ ไปเมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมา จำนวน 3.02 ล้านคน แต่ปรากฏว่ามีกลุ่มตกหล่นเหลือ 2 แสนคน
กลุ่มตกหล่น 2 แสนคน รีบผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน
สำหรับกลุ่มตกหล่น 2 แสนคน กระทรวงการคลัง ให้สิทธิจ่ายเงินซ้ำ 3 รอบ ตารางการจ่ายเงินกำหนดรอบจ่ายซ้ำ 3 รอบ ดังนี้
- รอบวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ต้องผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาขน ภายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568
- รอบวันที่ 28 มีนาคม 2568 ต้องผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนภายในวันที่ 25 มีนาคม 2568
- รอบวันที่ 28 เมษายน 2568 ต้องผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน ภายในวันที่ 23 เมษายน 2568.
ที่มา : กระทรวงการคลัง