นายกฯ กดโอนเงิน 10,000 บาท ผู้สูงอายุ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจไทยโต 3%

27 ม.ค. 2568 | 11:32 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ม.ค. 2568 | 11:48 น.

นายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร” เปิดตัวโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ กดปุ่มแจกเงิน 10,000 บาท 3 ล้านคน เติมเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจ 30,000 ล้านบาท หวังทั้งปีเศรษฐกิจไทยโต 3%

วันนี้ (27 มกราคม 2568) ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี ได้เปิดตัวโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ หรือ การแจกเงิน 10,000 บาท ตามนโยบานรัฐบาล โดยวันนี้ถือเป็นวันที่กรมบัญชีกลางได้ทำการโอนเงิน 10,000 บาท ให้แก่ผู้ได้รับสิทธิของโครงการฯ จำนวน 3,025,596 ราย

 

นายกฯ กดโอนเงิน 10,000 บาท ผู้สูงอายุ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจไทยโต 3%

 

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และที่ผ่านมาได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฟสแรก ได้มอบเงิน 10,000 บาท ไปยังกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ 14.5 ล้านคน ส่วนเฟส 2 วันนี้ก็ได้เริ่มต้นแจกเงิน 10,000 บาท ให้กับผู้สูงอายุเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกไว้กับบัตรประชาชน จำนวน 3 ล้านคน ซึ่งจะเติมเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจไทยอีก 30,000 ล้านบาท

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า การแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ครั้งนี้ เชื่อว่า ผู้สูงอายุอาจจะใช้เงิน 10,000 บาท ไปในสองส่วน ส่วนแรกนำไปจับจ่ายใช้สอย ส่วนที่สองคือการนำไปต่อยอดทำธุรกิจ หรือนำไปซื้อของมาขาย ซึ่งรัฐบาลก็ชอบทั้งสองวิธี เพราะจะทำให้คนสูงวัยยังมีกิจกรรมและมีอาชีพที่ต้องทำต่อไป 

“สุดท้ายเชื่อว่าหลายคนก็คงไม่เอาเงินไปเก็บ และจะเร่งใช้จ่ายเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจ” รองนายกฯ ระบุ

อย่างไรก็ตามนอกจากโครงการนี้แล้ว รัฐบาลยังรัฐบาลเร่งรัดการลงทุน ทั้งการลงทุนภาครัฐและเอกชน เพื่อให้เกิดการจ้างงาน รวมทั้งจะการขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ ออกมาเป็นระยะ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในช่วงรอยต่อรอการลงทุน ซึ่งคาดว่า น่าจะทำให้เศรษฐกิจโตได้ไม่ต่ำกว่า 3%

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุครั้งนี้ จะผลักดันให้เศรษฐกิจโตได้เพิ่มอีก 0.1% โดยรัฐบาลคาดหวังว่าคนกลุ่มนี้จะทำให้เกิดกำลังการใช้จ่ายที่สูงเหมือนกับเฟสแรก ซึ่งจากนี้ไปรัฐบาลจะรักษาโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ โดยการสร้างรายได้เข้าประเทศทั้งในฤดูกาลท่องเที่ยว และนอกฤดูกาลท่องเที่ยว รวมทั้งตอนนี้ก็ยังมีอีกโครงการคือ คุณสู้เราช่วย ซึ่งเป็นหนึ่งโครงการที่จะช่วยลดหนี้และเติมเงินกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลจะพิจารณาวงเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดความต่อเนื่อง โดยนอกเหนือจากการใช้กลไกของเงินงบประมาณแล้ว ยังมีช่องทางอื่น ๆ เช่น เงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจ หรือการปรับลดขั้นตอนกระบวนการเพื่อให้ภาคเอกชนเกิดความสะดวกมากขึ้น รวมไปถึงการเร่งรัดเงินลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อให้เกิดโมเมนตัมทางเศรษฐกิจต่อไป