"กนอ."ตั้งคณะทำงานสอบข้อเท็จจริงกรณีขนผงแร่ยิปซัมออกนอกนิคมฯ มาบตาพุด

09 ก.ย. 2565 | 16:14 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.ย. 2565 | 23:14 น.

"กนอ."ตั้งคณะทำงานสอบข้อเท็จจริงกรณีขนผงแร่ยิปซัมออกนอกนิคมฯ มาบตาพุด ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ระบุผิดจริงพร้อมดำเนินการลงโทษตามขั้นตอนโดยเร็วที่สุด

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีการร้องเรียนว่า มีการขนผงแร่ยิปซัมออกจากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ได้รับรายงานจากสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้นำส่งหนังสือแจ้งขนย้ายสารปรับปรุงคุณภาพดิน (ยิปซัม) ออกจากพื้นที่ของบริษัท ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ให้ทาง สนพ. พิจารณาตามหนังสือเลขที่ NFC 076/2565 ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2565 และทาง สนพ.ได้มีการประชุมผู้เกี่ยวข้อง 

 

เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว และได้ออกหนังสือเลขที่ อก. 5106.5/0698 ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ให้บริษัทปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ตามหนังสือให้ครบถ้วน เพื่อพิจารณาอนุญาตให้บริษัทฯ นำสารยิปซัม ออกนอกพื้นที่ จากนั้นในวันที่ 11 สิงหาคม 2565 เทศบาลเมืองมาบตาพุด ได้ออกหนังสืออนุญาตให้ขนย้ายของเสียจากการก่อสร้าง การรื้อถอนทำลายสิ่งก่อสร้าง และวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ที่ไม่เป็นของเสียอันตรายออกนอกพื้นที่โรงงาน ตามหนังสือ เลขที่ รย. 52204/4345 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2565

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการร้องเรียนผ่านสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับผลกระทบในการขนแร่ยิปซัม ออกจากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดนั้น ทาง สนพ. ได้เรียกบริษัท บริษัทฯ ดังกล่าวมาประชุมติดตามความคืบหน้าถึงกรณีข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันทาง สนพ.

 

ตั้งคณะทำงานสอบข้อเท็จจริงกรณีขนผงแร่ยิปซัมออกนอกนิคมฯ มาบตาพุด

 

และเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองมาบตาพุด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณกองยิปซัม ภายในบริษัท  และพื้นที่ร้องเรียน พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างยิปซัมไปตรวจสอบโดยห้องปฏิบัติการ รวมถึงให้บริษัทฯ หยุดการขนยิปซัมก่อนที่ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมจะลงพื้นที่ตรวจสอบอีกด้วย

 

นายวีริศ กล่าวอีกว่า ได้มีการสั่งให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและหากพบว่ามีความผิดจริง ก็พร้อมดำเนินการลงโทษตามขั้นตอนต่อไป 

เพราะ กนอ.เป็นองค์กรหลักที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรม และกำกับดูแลการบริหารจัดการโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศให้เป็นไปตามมาตรฐาน เราจึงมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมให้เติบโตควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสังคม และชุมชนโดยรอบ