‘สุชาติ’ลุยปักธง แรงงานยุคใหม่ รับฮับการเงินตะวันออกกลาง

10 ส.ค. 2565 | 18:30 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ส.ค. 2565 | 01:41 น.

ยุทธศาสตร์แรงงานไทยไปซาอุฯรอบใหม่ไม่เน้นปริมาณ “สุชาติ”ย้ำ คัดเฉพาะกลุ่มสกิลรับเดือนละ 4 หมื่นบาทขึ้นไป หนุนเด็กจบอาชีวะไปหาประสบการณ์ชีวิต เรียนรู้เทคโนฯสมัยใหม่มาใช้ประโยชน์ในอนาคต นายจ้างซาอุฯแจ้งแล้ว 2 พันกว่าตำแหน่งรอแรงงานไทย ล็อตแรกขอด่วนพยาบาล-ผู้ช่วย

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษ “ซาอุฯ ขุมทองใหม่ตลาดแรงงานไทย” ในการสัมมนาออนไลน์ “The Big Issue 2022 :The Opportunities ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ไทย-ซาอุฯ” จัดโดยฐานดิจิทัล ว่า การฟื้นความสัมพันธ์กับประเทศซาอุฯในรอบกว่า 30 ปี ของนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้คนไทยมีโอกาสกลับไปทำงานที่ซาอุฯ ซึ่งเคยเป็นตลาดแรงงานขนาดใหญ่ของคนไทยในอดีตได้อีกครั้ง


    แต่ยุทธศาสตร์ด้านตลาดแรงงานไทยในซาอุฯ จะเปลี่ยนไป จากเดิมสมัยพ่อของตน เดินทางไปทำงานซาอุฯ เพราะจบแค่ป.4 ต้องไปเป็นกรรมกร แต่วันนี้ที่จะส่งคนไทยไปทำงาน เป็นตลาดแรงงานมีทักษะฝีมือ หรือกึ่งมีฝีมือ ตรงตามความต้องการของซาอุฯ ที่ต้องการแรงงานช่างต่างๆ อาทิ ช่างเชื่อม ช่างขุเจาะ รวมไปถึงบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล หรือภาคบริการด้านการท่องเที่ยว-โรงแรม

 

ตลาดแรงงานในต่างประเทศจะเป็นโอกาสของลูกหลานเรา ที่เรียนด้านอาชีวศึกษา เรียนช่าง หรือสูงขึ้น ได้มีช่องทางได้ไปหาประสบการณ์ชีวิต ได้องค์ความรู้ ได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในประเทศได้ในอนาคต ที่นายกฯให้ทำเอ็มโอยูภายใน 90 วัน ผมทำเสร็จทันแน่นอน

 

ทั้งเรื่องตำแหน่งงาน และการจัดส่งคนไปทำงานเราเลือก ไม่เอาจำนวน เอาคุณภาพ คนไม่มีสกิลไม่ส่ง จะส่งเฉพาะคนที่มีทักษะฝีมือ ไปแล้วมีรายได้ 4 หมื่นบาทขึ้นไปจนถึงแสนบาท ไปแล้วให้เขามองว่าคนไทยมีความสามารถ”

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

รัฐมนตรีแรงงานกล่าวอีกว่า ตลาดแรงงานไทยในซาอุฯ ยังมีอีกกว้างมาก จากที่ได้ร่วมรับฟังการหารือของนายกฯกับมกุฎราชกุมารฯ ซาอุฯมีวิสัยทัศน์จะพัฒนาครั้งใหญ่ จะมีการลงทุนสร้างเมืองใหม่ที่ใหญ่โตและทันสมัยด้วยไอที เพื่อเป็นเมืองศูนย์กลางทางการเงินของตะวันออกกลางทั้งหมด จะเกิดตลาดจ้างงานนับล้านตำแหน่ง เป็นโอกาสของพี่น้องคนไทยที่พูดภาษาอาระบิกได้ เช่น จากจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือชุมชนมุสลิม เช่นที่มีนบุรี ที่มีศาสนา-วัฒนธรรมคล้ายกัน ส่วนที่ไม่ใช่มุสลิมก็ยังมีตำแหน่งงานบริการด้านท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร การดูแลสุขภาพ ที่ซาอุฯยังมีความต้องการอีกมาก
  

 เรามีทูตแรงงานที่ซาอุฯ ได้ประสานกับหอการค้าซาอุฯแล้วว่า ทางบริษัทต่างๆ ต้องการแรงงานประเภทไหน แรงงานค่าจ้างเป็นอย่างไร ได้นำข้อมูลส่งให้กระทรวงแรงงานดูแลด้านการจัดหาและจัดส่งแบบจีทูจี เพราะเอกชนทำได้ลำบาก มีการเรียกเก็บค่าดำเนินการไม่เท่ากัน

 

และเป็นไปตามนโยบายนายกฯ ที่เป็นห่วง ว่าเปิดประเทศแล้วคนไทยไปทำงานจะมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ไม่มีเงินเก็บ เกิดความท้อถอย ทางกระทรวงแรงงานจึงจะดูแลในช่วงแรกนี้ไปก่อน ซึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้ว

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กล่าวในเวทีเสวนา หัวข้อ “Go Thailand ทัพธุรกิจไทยตะลุยซาอุฯ” ในการสัมมนาเดียวกัน ว่า ก่อนหน้า 32 ปีก่อน ซาอุดีอาระเบีย เป็นตลาดหลักของแรงงานไทย ที่ประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ เพื่อไปทำงานกรรมกร เมื่อไทยไม่ได้เข้าไปทำงานซาอุฯ ก็ได้แรงงานจากเอเซียใต้ เช่น บังคลาเทศ อินเดีย ปากีสถาน รวมถึงฟิลิปปินส์ ไปทดแทน
  

 เมื่อไทย-ซาอุฯกลับมาเปิดสัมพันธ์ มีการเปิดตลาดแรงงานใหม่ ก็พบว่าถ้าเป็นแรงงานพื้นฐานไร้ทักษะ เป็นตำแหน่งงานที่จะได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับแรงงานจากเอเซียใต้ ที่ระดับ 1.4-1.5 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งไม่ต่างจากจากผลตอบแทนในไทยนัก ทางรัฐบาลและกระทรวงแรงงานเห็นว่า ถ้าเป็นตลาดแรงงานกลุ่มนี้ทำในบ้านเราเองดีกว่า ถ้าจะไปควรต้องเน้นกลุ่มแรงงานทักษะฝีมือเป็นหลัก เพื่อได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า
    

นายไพโรจน์กล่าวอีกว่า นับแต่มีการฟื้นสัมพันธ์ จนถึงปัจจุบันนี้มีนายจ้างในซาอุดีอาระเบีย แจ้งความต้องการแรงงานไทยมายังการจัดหางาน โดยผ่านการรับรองจากสำนักงานแรงงานในกรุงริยาดแล้ว 7 บริษัท รวม 13 ตำแหน่ง 2,161 อัตรา ส่วนมากเป็นตำแหน่งพยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล พนักงานขับรถ พนักงานทำความสะอาด และช่างต่างๆ อาทิ ช่างเชื่อม ช่างไฟฟ้า
    

กรมการจัดหางานได้ประกาศรับสมัครผู้สนใจจะไปทำงานกับนายจ้างซาอุฯ 4 บริษัท รวม 714 อัตรา ประกอบด้วย พยาบาลและผู้ช่วยฯ 704 อัตรา ช่างไฟฟ้า ช่างเชื่อม และช่างกลึง ประเภทละ 3 อัตรา

 

เมื่อครบกำหนด 4 ก.ค.2565 มีผู้สมัคร 60 คน เป็นตำแหน่งพยาบาลและผู้ช่วย 45 คน และช่างต่างๆ 15 คน ซึ่งได้แจ้งรายชื่อผู้สมัครกลับไปให้นายจ้างซาอุฯแล้ว จะเริ่มสัมภาษณ์ผู้สมัครทำงานช่างในวันที่ 9 ส.ค.นี้ หากผ่านการพิจารณาของนายจ้างและแจ้งชื่อกลับมา ทางกรมฯ จะได้นัดหมายเพื่อจัดส่งแรงงานไทยชุดแรกที่จะกลับไปทำงานในซาอุฯ โดยเร็วที่สุด โดยหากเป็นไปได้ท่านรัฐมนตรีแรงงานจะไปส่งด้วยตนเอง

 

อธิบดีกรมการจัดหางานกล่าวอีกว่า แม้ช่วงแรกกรมจะเป็นผู้รับผิดชอบจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานซาอุฯ แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นบริษัทจัดหางานเอกชน โดยสามารถดำเนินการควบคู่กันไป เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ การส่งเสริมให้คนไทยมีงานทำโดยเฉพาะการไปทำงานในต่างประเทศ


    “จากการประชุมทางด้านเทคนิคระหว่างสองประเทศหลายครั้ง พบว่าทางการซาอุฯ ได้แจ้งในที่ประชุมว่า การจัดหาแรงงานต่างชาติของประเทศซาอุฯ จะดำเนินการโดยบริษัทจัดหางานเท่านั้น โดยไม่มีช่องทางของภาครัฐจัดส่ง ดังนั้น คาดว่าการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ซาอุฯในอนาคต จะมีเพียงช่องทาง การจัดส่งโดยบริษัทจัดหางานเอกชน”


    นายไพโรจน์กล่าวอีกว่า คาดว่าในอนาคตจะมีตำแหน่งงานที่หลากหลายเพิ่มเติมอีก โดยเฉพาะตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมบริการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร พนักงานนวดสปา ช่างฝีมือทักษะพิเศษ เช่น ช่างเชื่อมใต้น้ำ ซึ่งมีผลตอบแทนสูงมากเดือนละนับแสนบาท อยู่ระหว่างการจัดหาผู้สนใจ รวมถึงแนวโน้มจาก Saudi Vision 2030 ซาอุฯ จะมีความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมาก จากแผนลงทุนโครงการสร้างเมือง Smart City ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ บริเวณชายฝั่งทะเลแดง ใกล้กับประเทศอียิปต์และจอร์แดน