เอาอีกแล้ว “ทล.” แจงยิบ รถปิคอัพเสียหลักพุ่งตกท่อระบายน้ำ

04 ส.ค. 2565 | 17:41 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ส.ค. 2565 | 00:48 น.

“ทล.” แจงเหตุรถปิคอัพเสียหลักพุ่งตกท่อระบายน้ำ บนถนน ทล.321 พบผู้บาดเจ็บ 1 ราย เร่งสอบข้อเท็จจริง ด้านผู้บาดเจ็บ ไม่ติดใจเอาความ หลังฝนตก-มองไม่เห็นทาง ชี้ขณะเกิดเหตุฯ ติดตั้งป้ายเตือน พร้อมเยียวยาค่าพยาบาล-ซ่อมรถ

นายจิรวัฒน์ ทรงผาสุข ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 12 กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากแขวงทางหลวงสุพรรณบุรีที่ 2 (อู่ทอง) โดยหมวดทางหลวงทุ่งคอก ระบุว่า วันนี้ (4 ส.ค. 2565) เมื่อเวลา 02.30 น. ได้เกิดอุบัติเหตุรถปิคอัพ หมายเลขทะเบียน 3ขค-6237 กรุงเทพมหานคร เสียหลักพุ่งเข้าไปในพื้นที่บริเวณก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 321 ตอน กำแพงแสน-ทุ่งคอก กม.33+200 ด้านซ้ายทาง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย

ทั้งนี้บริเวณจุดเกิดเหตุ มีสภาพทางเป็นพื้นที่งานก่อสร้าง อยู่ระหว่างการขุดพื้นทางเป็นบ่อพักน้ำ เพื่อวางท่อระบายน้ำ มีกายภาพเป็นถนนทางตรงขนาด 4 ช่องจราจร ผิวทางดี และผู้รับจ้างมีการติดตั้งป้ายเตือนการก่อสร้าง รวมทั้งไฟกระพริบ อย่างไรก็ตาม เหตุดังกล่าว ไม่กระทบกับการจราจร ซึ่งสามารถสัญจรผ่านได้ตามปกติ และไม่มีทรัพย์สินของทางราชการเสียหายแต่อย่างใด

เอาอีกแล้ว “ทล.” แจงยิบ รถปิคอัพเสียหลักพุ่งตกท่อระบายน้ำ

สำหรับสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงของเจ้าหน้าที่ และจะรายงานให้ทราบต่อไป โดยในเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บอาจจะมองไม่เห็นจุดก่อสร้าง เนื่องจากในขณะเกิดเหตุ มีฝนตก ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บไม่ได้ติดใจเอาความกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ล่าสุด ทางผู้รับจ้างฯ ได้เตรียมรถกระเช้าเพื่อนำมายกรถปิคอัพ และเคลื่อนย้ายออกจากจุดเกิดเหตุ ขณะเดียวกัน ทางผู้รับจ้างฯ ได้ดำเนินการชดเชยค่าเสียหาย ทั้งค่ารักษาพยาบาล และค่าซ่อมรถให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วด้วย

เอาอีกแล้ว “ทล.” แจงยิบ รถปิคอัพเสียหลักพุ่งตกท่อระบายน้ำ

นอกจากนี้พื้นที่เกิดเหตุนั้น อยู่ในโครงการงานจ้างเหมาทำการฟื้นฟูทางหลวง ตามแบบมาตรฐานกรมทางหลวง และแผนผังแบบแปลนของสำนักงานทางหลวงที่ 12 (สุพรรณบุรี) บนทางหลวงหมายเลข 321 ตอนควบคุม 0201 ตอน กำแพงแสน-ทุ่งคอก ระหว่าง กม.33+165-กม.33+350 ปริมาณงาน 1 แห่ง (940 ตร.ม.) ตอนนี้อยู่ระหว่างการวางท่อระบายน้ำ ซึ่งคาดว่า จะแล้วเสร็จภายใน 1 เดือนนับจากนี้ ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จ จะช่วยป้องกันน้ำท่วมบนทางหลวงสายดังกล่าว

 

 

อย่างไรก็ตาม ทล.ขออภัยในความไม่สะดวกกับประชาชนผู้ใช้ทาง และขอเรียนว่า ทล.ได้เน้นย้ำเรื่องมาตรการความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุดมาโดยตลอด เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม