“สนธิรัตน์” เตือนรัฐบาล 8 เดือนสุดท้ายอย่าโหมประชานิยม

01 ส.ค. 2565 | 16:59 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ส.ค. 2565 | 01:21 น.

“สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” ฝากการบ้านรัฐบาล 8 เดือนสุดท้ายอย่าโหมประชานิยม แนะสร้างเศรษฐกิจภายในให้เข้มแข็ง ช่วยค่าครองชีพให้ตรงกลุ่ม แก้หนี้สินครัวเรือน และปรับโครงสร้างบริหารครม. อย่าเป็นครม.เศรษฐกิจแบบแยกส่วนมาแก้วิกฤตประเทศ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย เปิดเผยในงานสัมมนา Thailand Survival ไทยจะรอดอย่างไรในวิกฤตโลก หัวข้อเศรษฐกิจไทยจะก้าวผ่านอย่างไร ว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงวิกฤตจริง ๆ และรัฐบาลต้องยอมรับวิกฤตอยู่ตรงไหน และหาทางแก้ปัญหาให้ถูกวิธี โดยการแก้ปัญหาที่ดีต้องใช้เวลาในปัจจุบันเข้าไปเร่งแก้ไข

 

ทั้งนี้อยากฝากรัฐบาลให้ไปคิดต่อว่าในช่วงที่เหลืออีก 8 เดือนสุดท้าย ต้องรักษาสถานะการแข่งขันของประเทศ โดยเรื่องแรกคือ การสร้างความเข้มแข็งจากภายในให้ได้ นี่คือหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องรักษาเศรษฐกิจภายในทุกองค์ประกอบให้เกิดความเข้มแข็งให้ได้ 

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย

 

ส่วนเรื่องการดูแลค่าครองชีพ อยากให้รัฐบาลเลิกการจัดเงินผ่านมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายเข้าไปให้กลุ่มต่าง ๆ เช่น โครงการคนละครึ่ง ที่ทุกคนได้หมดแยงเข้าไปแย่งกันใช้สิทธิ เพราะมาตรการแบบนี้ควรช่วยให้ตรงกลุ่ม มีเป้าหมายเฉพาะโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบาง 

 

ขณะเดียวกันยังต้องเร่งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนโดยด่วน เพราะเรื่องนี้ถือเป็นอุปสรรคใหญ่มากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ รัฐบาลต้องใช้โอกาสในการจัดการหนี้  โดยที่ไม่ใช่การอัดสินเชื่อเข้าไปอย่างเดียว แต่ต้องจัดการหนี้เชิงโครงสร้างใหม่ทั้งหมดแบบประเทศจีน มีกองทุนแก้หนี้ และปรับ KPI ธนาคารของรัฐใหม่ไม่ใช่ทำกำไร แต่ต้องหันมากอบกู้หนี้ของประเทศ

นายสนธิรัตน์ ระบุว่า ขอเตือนรัฐบาลในช่วงเวลา 8 เดือนสุดท้าย ต้องปรับโครงสร้างการบริหารงานของรัฐบาล ซึ่งผมเคยอยู่ในรัฐบาลนี้ จึงทราบดีว่าโครงสร้างเป็นยังไง โดยเฉพาะการเป็นรัฐบาลที่มีครม.เศรษฐกิจแบบแยกส่วน และผ่านมา 3 ปีครึ่งแล้วก็ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง ยังทำงานแบบเดิม 

 

“ไม่ว่าจะแยกส่วนยังไง ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่วันนี้ภาวะวิกฤตของชาติใหญ่เกินกว่าที่จะมองแค่พรรค ตอนนี้ยังไม่เห็นการทำงานเชิงวอร์รูม เกาะติด ทำงานเชิงสร้างสรรค์ และตอนนี้ก็ใกล้เลือกตั้งแล้ว จึงกังวลใจอย่างยิ่งว่าจะเป็นการบริหารเชิงหาเสียง เชิงประชานิยม ซึ่งเป็นสิ่งที่ซ้ำเติมประเทศไทย ดังนั้นในช่วงเวลา 8 เดือนที่เหลือ จึงเป็นเวลาทอง แม้จะมีวิกฤต แต่ก็ย่อมมีโอกาสเสมอ” นายสนธิรัตน์ ระบุ