“เจ้าท่า” เคาะมาตรการคุมบริการเดินเรือโดยสาร บูมท่องเที่ยว
“เจ้าท่า” ไฟเขียวมาตรการคุมเข้มบริการเดินเรือโดยสาร ดึงเทคโนโลยี-นวัตกรรม ให้บริการ หลังภาครัฐผ่อนคลายล็อกดาวน์ เตรียมรองรับช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หนุนแหล่งยอดนิยมทางน้ำทางเศรษฐกิจไทย
นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย เปิดเผยว่า ในการเตรียมความพร้อมที่จะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 จากการที่รัฐบาลได้ประกาศเปิดประเทศ ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย กรมเจ้าท่าได้ประกาศยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อการท่องเที่ยวทางน้ำให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลในพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ โดยการนำนวัตกรรม เทคโนโลยี มาใช้เพื่อการอำนวยความสะดวกและการติดตามการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการเรือโดยสาร ทั้งในทะเลและแม่น้ำที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เพื่อส่งเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมธุรกิจภาคการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
สำหรับมาตรการที่กรมเจ้าท่านำมาปฏิบัติสู่การยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อให้บริการทางน้ำในแหล่งท่องเที่ยว โดยการถอดบทเรียนจากกรณีการเกิดอุบัติเหตุทางน้ำที่เกิดขึ้นในอดีต และเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ซ้ำกับนักท่องเที่ยว อาทิ กรณีเรือฟินิกซ์ล่มเมื่อปี 2561 จึงได้มีการพัฒนานำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแลความปลอดภัยในการเดินเรือของผู้ให้บริการ ที่มีกลไกการกำกับ ควบคุมและติดตามเรือ และนักท่องเที่ยว รวมทั้งติดตั้งอุปกรณ์ช่วยชีวิตบนเรือ และกำกับมาตรฐานคนเรือและคนขับเรือต้องมีใบอนุญาตที่ถูกต้อง ขณะเดียวกันยังได้มีการแก้ไขปรับปรุงระเบียบ กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
ทั้งนี้กรมเจ้าท่าได้จัดทำแผนประชาสัมพันธ์ เพื่อถ่ายทอดไปยังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการให้บริการท่องเที่ยวทางน้ำ ที่ต้องดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยการท่องเที่ยวทางน้ำเพื่อให้มีความพร้อมมากที่สุด จากการที่ไทยได้เปิดประเทศอย่างเป็นทางการไปแล้วในเดือนกรกฎาคม โดยกรมเจ้าท่าจะเร่งทำการตรวจสอบ เพื่อกำกับดูแลให้เกิดผลทางปฏิบัติ
"เชื่อว่าในปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้าสู่ประเทศไทยจะมีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจังหวัดที่ได้รับความนิยมอย่างภูเก็ต กระบี่ พังงา รวมทั้งกรุงเทพฯ ต้องเร่งบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วนที่จะนำเทคโนโลยี และเครื่องมือต่างๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยจะมีการติดตามตั้งแต่เรือเดินทางออกจากท่า ความมั่นคงของท่าเทียบเรือ ตัวเรือ รวมทั้งความชำนาญของผู้ให้บริการเดินเรือ กัปตันเรือ และคนประจำเรือให้มีความชำนาญในการช่วยเหลือ กรณีเกิดอุบัติเหตุทางน้ำได้อย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อดูแลชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น"