รัฐบาลยันรีดกำไรโรงกลั่นโปะกองทุนน้ำมัน ยังพอมีหวัง ไม่นานได้ข้อสรุป

05 ก.ค. 2565 | 12:07 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ก.ค. 2565 | 19:12 น.

รองนายกฯ เศรษฐกิจ ยืนยัน แผนรีดกำไรโรงกลั่นโปะกองทุนน้ำมัน ยังพอมีหวัง หลังประชุมหลายรอบแล้ว คาดไม่นานได้ข้อสรุป ส่วนประชุมสมช. เป็นการเตรียมความพร้อมรับวิกฤต หลังประเมินรัสเซีย-ยูเครน ยืดเยื้อ

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ถึงกรณีการหารือกับผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมัน 6 รายเพื่อขอความร่วมมือนำส่งกำไรส่วนหนึ่งจากค่าการกลั่นน้ำมันเข้ากองทุนน้ำมันช่วงวิกฤติน้ำมันแพง ว่า ในเร็ว ๆ นี้จะได้ข้อสรุป

 

“ยังพอมีหวัง ในเร็ว ๆ นี้ และคงใช้เวลาไม่นาน เพราะต้องทำเร็วที่สุด” นายสุพัฒนพงษ์ ระบุ

 

ส่วนกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และเห็นชอบการจัดทำแผนเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ และพลังงาน พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมา 2 ชุด เพื่อติดตามข้อมูลเศรษฐกิจทุกประเด็นนั้น มองว่า ผลประชุมก็เป็นที่น่าพอใจ
 

โดยในการประชุมครั้งนี้ กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่ดูแลด้านกฎหมาย ก็ได้รายงานสถานการณ์ เพื่อฉายภาพครบทุกเรื่องและทุกมิติ และนำเสนอแผนการเตรียมความพร้อมกรณีเกิดเหตุคับขัน รองรับกการดูแลประชาชนในหากเกิดภาวะวิกฤตขาดแคลนขึ้นมา เพราะปัจจุบันสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะจบอย่างไร

 

ส่วนการเตรียมความพร้อมเรื่องแหล่งพลังงานเพิ่มเติมนั้น ยอมรับว่า ตอนนี้ก็พยายามดูหลายพื้นที่ทั้งในประเทศ และในพื้นที่อ่าว พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากผู้ผลิตให้เร่งดำเนินการให้มากขึ้นหากการขนส่งน้ำมันหรือขนส่งก๊าซมีข้อจำกัด หลังสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนอาจยืดเยื้อ

 

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมครม. ที่ทำเนียบรัฐบาล

รองนายกฯ ระบุว่า ในการเตรียมปริมาณพลังงานสำรองไว้ใช้ในอนาคตเพียงพอหรือไม่นั้น ยอมรับว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการสำรองน้ำมันดิบ 60-70 วันโดยประมาณ ขณะที่ LPG สำรองไว้ประมาณ 15-20 วัน และกระทรวงพลังงานได้ขอความร่วมมือทุกฝ่าย พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด