“หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า” เปิดบ้านโชว์ความสำเร็จ 4 โครงการชุมชนยั่งยืน

13 มิ.ย. 2565 | 15:09 น.
อัปเดตล่าสุด :13 มิ.ย. 2565 | 22:26 น.

“หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า” เปิดบ้านต้อนรับหน่วยงานภาครัฐ เยี่ยมชมความสำเร็จ 4 โครงการต้นแบบ พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้สร้างชุมชนยั่งยืน ทั้งธนาคารน้ำใต้ดิน ปลูกป่าเชิงนิเวศในชุมชนฯ ไข่ไก่-ผักอินทรีย์

 

รายงานข่าว เผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายภักดี ไทยสยาม ประธานกรรมการ บริษัท หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า จำกัด อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมคณะผู้บริหารและเกษตรกรหมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า ได้ให้การต้อนรับ นพ.สุทธิพงษ์ อาจกมล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีมโหสถ พร้อมคณะผู้บริหารโรงพยาบาลศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี ตลอดจนคณะผู้บริหารและพนักงาน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ จากธุรกิจไก่เนื้อและเป็ดเนื้อ ธุรกิจสัตว์น้ำ ธุรกิจห้าดาวและธุรกิจฟู้ดคอร์ทและจัดเลี้ยง ธุรกิจการค้าในประเทศ และหน่วยงานพัฒนาความยั่งยืน เข้าเยี่ยมชมความสำเร็จด้านการบริหารจัดการองค์กรและองค์ความรู้ชุมชน อาทิ โครงการธนาคารน้ำใต้ดิน โครงการปลูกป่าเชิงนิเวศในชุมชนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 โครงการไก่ไข่อินทรีย์ และโครงการผักอินทรีย์

 

“หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า” เปิดบ้านโชว์ความสำเร็จ 4 โครงการชุมชนยั่งยืน

 

 

นายภักดี กล่าวว่า เกษตรกรหมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาองค์กรและบุคลากรเพื่อความยั่งยืน ผ่านโครงการส่งเสริมด้านอาชีพ ด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ ที่ชาวชุมชนและชาวซีพีเอฟร่วมกันผลักดันให้เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาในทุก ๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง

 

โดยเริ่มต้นจากอาชีพหลักคือการเลี้ยงสุกร ภายใต้การสนับสนุนของซีพีเอฟ มานานกว่า 45 ปี นับตั้งแต่ปี 2520 สู่การต่อยอดอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ที่หลากหลาย ตามความต้องการของเกษตรกร และสอดรับกับบริบทของชุมชน ควบคู่กับการสร้างความรักและผูกพันของเกษตรกรและลูกหลาน เพื่อสร้างชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน

 

“หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า” เปิดบ้านโชว์ความสำเร็จ 4 โครงการชุมชนยั่งยืน

 

จากการถอดบทเรียน ในการดำเนินโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของหมู่บ้านเกษตรกรกรรมหนองหว้า พบว่า โครงการธนาคารน้ำใต้ดิน เป็นการบูรณาการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ จากการที่ทุกปีในช่วงที่เกิดภาวะแล้ง จะต้องซื้อน้ำสำหรับใช้ในการเลี้ยงสุกรและการอุปโภคบริโภค จึงเริ่มดำเนินโครงการฯในปี 2562 ด้วยการทำธนาคารในระบบเปิดและระบบปิด บนพื้นที่ 1,200 ไร่ สามารถแก้ปัญหาขาดน้ำในช่วงภัยแล้งได้ ไม่ต้องซื้อน้ำใช้อีก และธนาคารน้ำใต้ดิน หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า เป็นหนึ่งในโครงการที่สอดคล้องกับเป้าหมาย CPF 2030 Sustainability in Action ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการคืนน้ำกลับสู่ชุมชนในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ และแก้ไขบรรเทาปัญหาเรื่องน้ำให้กับคนในชุมชน สังคม และโลก อย่างเป็นรูปธรรม

 

“หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า” เปิดบ้านโชว์ความสำเร็จ 4 โครงการชุมชนยั่งยืน

 

ส่วนศูนย์เรียนรู้โครงการปลูกป่าเชิงนิเวศในชุมชนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 เป็นโครงการที่ชาวหนองหว้าต้องการสร้างป่าให้ชุมชน ตามแนวทางของ ศ.ดร.อาคิระ มิยาวากิ ผู้สร้างทฤษฎีปลูกป่าเลียนแบบระบบนิเวศตามธรรมชาติที่ได้รับการยอมรับและนำไปปฏิบัติตามทั่วโลก โดยจัดให้พื้นที่ 14 ไร่ ภายในหมู่บ้านฯ ปลูกต้นไม้พืชพรรณและสมุนไพร 109 ชนิด มากกว่า 50,000 ต้น

 

ในปีนี้ธุรกิจสุกรจะใช้สวนป่าแห่งนี้ ในการจัดอบรมให้ความรู้การวัดต้นไม้ให้กับพนักงาน CPF เพื่อขอรับรองผลการประเมินการลดก๊าซเรือนกระจกโครงการ LESS ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) การดำเนินโครงการนี้ สนับสนุนเป้าหมาย CPF 2030 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ Net zero Carbon ด้วยการปลูกต้นไม้เพื่อดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย

 

“หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า” เปิดบ้านโชว์ความสำเร็จ 4 โครงการชุมชนยั่งยืน

 

ขณะที่โครงการไข่ไก่อินทรีย์ เป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างซีพีเอฟและเกษตรกรที่ต้องการมีรายได้เสริม โดยซีพีเอฟได้ร่วมสนับสนุนด้านวิชาการในโครงการไข่ไก่อินทรีย์ เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตไข่ไก่ออร์แกนิคให้เกิดความสำเร็จ สามารถสร้างอาชีพเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อยอิสระ (Free Range) สอดรับความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจอาหารปลอดภัยและคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์

 

จากความใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต ไข่ไก่สดหนองหว้า จึงได้รับการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) และการรับรองรับรองระบบการผลิตปศุสัตว์ จากกรมปศุสัตว์ ซึ่งถือเป็นการรับรองสูงสุดด้านเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์และการผลิตไข่ไก่อินทรีย์ 

 

“หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า” เปิดบ้านโชว์ความสำเร็จ 4 โครงการชุมชนยั่งยืน

 

ส่วนโครงการผักอินทรีย์ ซีพีเอฟได้มีส่วนในการร่วมพัฒนาเครือข่าย สนับสนุนด้านวิชาการและการตลาด สอดคล้องเป้าหมาย CPF 2030 ด้าน Social Impact การพัฒนาโครงการด้านการสร้างผลลัพธ์เชิงบวกทางสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับชุมชน และผู้บริโภคได้รับอาหารที่ปลอดภัยจากสารเคมี ปัจจุบันได้พัฒนาสู่ “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า” ถือเป็นกลุ่มผู้ปลูกผักอินทรีย์รายเดียวของฉะเชิงเทรา