จี้ "กรมปศุสัตว์" เร่งตรวจสอบน้ำนมโค หนุนโควตา "นม ร.ร. ให้ อ.ส.ค. 200 ตัน/วัน

05 พ.ค. 2565 | 18:19 น.
อัปเดตล่าสุด :06 พ.ค. 2565 | 01:49 น.
617

“อำนวย ทงก๊ก” นำทัพ 7 สหกรณ์ 3 บริษัท ยื่นหนังสือ จี้ "กรมปศุสัตว์" เร่งตรวจสอบน้ำนมโค พ่วง หนุน จัดสรร อ.ส.ค.ให้ได้รับสิทธิ์ 200 ตัน/วัน นมโรงเรียน ไม่ควรเร่งรัดตัดตอน แจกนมเด็กวันที่ 17 พ.ค. ผวาน้ำนมเท็จโผล่ในโครงการนมโรงเรียน

ยื่นหนังสือ

 

วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 นายอำนวย ทงก๊ก ประธานกรรมการสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” วันนี้ ได้ยื่นหนังสือถึง  ขอให้กรมปศุสัตว์ตรวจสอบปริมาณน้ำนมไตที่เป็นจริง และสนับสนุนให้ อ.ส.ค.ได้รับสิทธินมโรงเรียนทั้งประเทศเพิ่มขึ้น และทบทวนการเข้าร่วมโครงการในพื้นที่กลุ่ม 1 ถึง  ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีนายสัตวแพทย์ สมชวน รัตนมังคลานนท์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้รับหนังสือนั้น

 

ด้วยการบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน จะต้องใช้ปริมาณตัวเลขน้ำนมโดมาพิจารณาในการจัดสรรสิทธิ์ แต่เนื่องจากขณะนี้กรมปศุสัตว์ได้มีหนังสือเรื่องการตรวจสอบปริมาณน้ำนมโดที่ศูนย์รวบรวมได้นำมาสมัครเข้าร่วมโครงการอาหารเริม (นม) โรงเรียน ทางกลุ่มจึงมีความเห็นว่าควรให้กระบวนการตรวจสอบ และสำรวจปริมาณน้ำนมโคของกรมปศุสัตว์ดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนไม่ควรเร่งรัดดำเนินการเพื่อจะให้ทันกับการเปิดภาคเรียน ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 ตามที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้

 

เพื่อให้ให้ตัวเลขปริมาณน้ำนมโคที่เป็นจริง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาขัดสรรสิทธิ์พื้นที่การจำหน่ายนมโรงเรียน เพื่อประ โยชน์ของโครงการและเป็นธรรมกับผู้ประกอบการทุกราย ไม่ให้เกิดการทุจริตนำตัวเลขน้ำนมโตที่เป็นเท็จมาขอจัดสรรสิทธิ์และทางกลุ่ม ขอสนับสนุนให้ อ.ส.ค. ได้รับสิทธินมโรงเรียนรวมทั้งประเทศไม่น้อยกว่า 200 ตัน/วัน เนื่องจากเชื่อว่า อ.ส.ค.มีปริมาณน้ำนมโคที่นำเชื่อถือที่สุด และขอความอนุเคราะห์ไห้ อ.ส.ค.ช่วยพิจารณาทบทวนการเข้าร่วมโครงการในพื้นที่กลุ่ม1 เนื่องจากในพื้นที่กลุ่ม  มีจำนวนนักเรียนน้อยและมีโรงงานที่มีปริมาณน้ำนมโดเป็นจำนวนมาก

 

 

อัพเดท

“เฉลิมชัย”สั่ง อ.ส.ค. ส่งข้อมูล ย้อนหลัง 10 ปี กินรวบ นม ร.ร. หรือไม่

 

 จึงขอให้ อ.ส.ค. ลงสมัครเข้าร่วมโครงการในพื้นที่กลุ่ม 1 ในจำนวนจำกัด เพื่อให้ผู้ประกอบการในพื้นที่กลุ่ม 1 สามารถอยู่รอดในการดำเนินธุรกิจได้ และเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีอาชีพพระราชทานคงอยู่ โดยขอให้ อ.ส.ค. ขยับการสมัครเข้าร่วมโครงการออกไปในพื้นที่กลุ่ม 3 และกลุ่ม 5 เพิ่มขึ้นแทน

 

เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีปริมาณเด็กนักเรียนเป็นจำนวนมาก แต่โรงงานผู้ประกอบการและปริมาณน้ำนมโคไม่เพียงพอต่อเด็กนักเรียน โดยทางกลุ่มขอสนับสนุนไห้ อ.ส.ค.ได้รับสิทธิ์รวมทั้งประเทศไม่น้อยกว่า 200 ตัน/วัน เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งระบบอยู่ด้วยและนักเรียนทั้งประเทศมีนมที่มีคุณภาพดื่ม

 

อนึ่ง บริษัท/สหกรณ์ที่ยื่นหนังสือ ประกอบด้วย

 

1.สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด

 

2.สหกรณ์โคนมไทยมิลล์ จำกัด

 

3.สหกรณ์โคนมมวกเหล็ก จำกัด

 

4.สหกรณ์โคนมปากช่อง จำกัด

 

5.สหกรณ์โคนมเชียงใหม่ จำกัด

 

6.สหกรณ์โดนมพัทลุง จำกัด

 

7.สหกรณ์ โคนมเชียงราย จำกัด

 

8.บริษัท เทียนขำแครี่ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด

 

9.บริษัท โคบาลมิลล์ จำกัด

 

10.บริษัท ราชา แครี่ จำกัด

แนบจดหมาย