จี้ “กรมสรรพากร” สอบภาษี ดัดหลังโรงงานนมโรงเรียน แจ้งน้ำนมเท็จ

นายอำนวย ทงก๊ก ประธานกรรมการสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”  ได้ทำหนังสือถึง อธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง  ขอให้ตรวจสอบการเสียภาษีของกลุ่มนิติบุคคล เรียน อธิบดีกรมสรรพากร   ด้วยคณะอนุกรรมการบริหารนมทั้งระบบ (กรมส่งเสริมสหกรณ์) ภายใต้คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงการซื้อขายน้ำนมโค(MOU) ระหว่างศูนย์รวบรวมน้ำนมโคกับผู้ประกอบการทุกรายที่มีความประสงค์จะซื้อขายน้ำนมโค ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 30 กันยายน ของทุกปี

 

 

เมื่อวันที่  10 พฤศจิกายน  2564  ที่ผ่านมา คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม(มิลค์บอร์ด) ได้จัดประชุมและได้มีการรับรองปริมาณน้ำนมโคที่มีการซื้อขายระหว่างศูนย์รวบรวมน้ำนมโคกับผู้ประกอบการทุกรายตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม  2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน  2565 ทั้งหมด รวม 3,516.719 ตัน/วัน  ปรากฎจากเอกสารข้อมูลจากการประชุมของคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) จากตัวเลขปริมาณน้ำนมโคทั้งหมดทั่วประเทศจำนวน 3,516.719  ตัน/วัน ที่มีการแสดงความประสงค์ในการทำบันทึกช้อตกลงการซื้อขายน้ำนมโคระหว่างศูนย์รวบรวมน้ำนมโคกับผู้ประกอบการ ได้แบ่งตามวัตถุประสงค์ของการซื้อน้ำนมโคตามแต่ผู้ประกอบการ(ผู้ซื้อ)จะแจ้งตามรายละเอียดดังนี้

 

1. ผู้ประกอบการ (ผู้ซื้อ)มีความประสงค์จะซื้อน้ำนมโคเพื่อขอเข้าร่วมโครงการอาหารเสริม(นม)โรงเรียน และขอเอาตัวเลขปริมาณน้ำนมโคที่ซื้อไปขอจัดสรรสิทธิจำหน่ายนมโรงเรียนตามประกาศหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนจำนวน  1,881.330 ตัน/วัน

 

2. ผู้ประกอบการ(ผู้ซื้อ)มีความประสงค์ซื้อน้ำนมโคเพื่อขอโควต้านำเข้านมผงจากต่างประเทศในอัตราภาษีต่ำจำนวน  1,234.049  ตัน/วัน

 

3. ผู้ประกอบการ(ผู้ซื้อ)มีความประสงค์ซื้อน้ำนมโคเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆจำนวน 401.340  ตัน/วัน โดยตัวเลขในข้อ  1  และ ๑2 ปริมาณตัวเลขน้ำนมโคของผู้ประกอบการทุกรายมีความสำคัญในการนำตัวเลขของปริมาณน้ำนมโคไปแสดงการขอรับการจัดสรรสิทธิจำหน่ายนมโรงเรียนปีการศึกษา  2565  และขอรับการจัดสรรโควตานำเข้านมผงจากต่างประเทศในอัตราภาษีที่ต่ำกว่าอัตราภาษีนำเข้าปกติ

กลุ่มสหกรณ์โคนมดังรายชื่อท้ายหนังสือฉบับนี้ ขอร้องเรียนมายังท่านอธิบดีกรมสรรพากร เพื่อขอให้กรมสรรพากรได้โปรดดำเนินการตรวจสอบผู้ประกอบการ(ผู้ซื้อ)บริษัทต่างๆและศูนย์รวบรวมน้ำนมโค (ผู้ขาย) ตามบัญชีรายชื่อแนบท้ายหนังสือฉบับนี้ด้วย เพราะจากการตรวจสอบจากข้อมูลเอกสารที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม(มิลค์บอร์ด)เมื่อคราวประชุมวันพุธที่  10 พฤศจิกายน  2564  เวลา 9.30  น. ห้องประชุม  123 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการหลีกเลี่ยงภาษีเงินได้ และมีซื้อขายน้ำนมโคแบบไม่แจ้งลงในระบบบัญชีที่ถูกต้อง

 

รวมทั้งไม่ได้ดำเนินการทางบัญชีเพื่อแสดงต่อพาณิชย์จังหวัดและกรมสรรพกรพื้นที่ตามตัวเลขปริมาณน้ำนมโคที่ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงการซื้อขายน้ำนมโค (MOU) ปี 2564/2565 แน่นอน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการจงใจแจ้งข้อความเท็จหรือแสดงหลักฐานเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามเลี่ยงภาษีอากรทำให้ภาครัฐได้รับความเสียหาย

 

อีกทั้ง ผู้ประกอบการตามบัญชีรายชื่อแนบท้ายหนังสือฉบับนี้บางรายเป็นทั้งศูนย์รวบรวมน้ำนมโคและเป็นผู้ประกอบการในตัวเอง แต่กลับขายน้ำนมโคที่ตนเองมีออกไป แล้วไปซื้อน้ำนมโคของผู้อื่นกลับเข้ามาเพื่อใช้ในกิจการ ซึ่งเป็นพฤติการณ์อันพิรุธน่าสงสัยว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการทำบัญชีเพื่อหลบเลี่ยงภาษีหรือไม่

 

ดังนั้น กลุ่มสหกรณ์โคนมผู้ร้องเรียนจึงขอให้ท่านอธิบดีกรมสรรพากรโปรดตรวจสอบผู้ประกอบการ(ผู้ซื้อ)และศูนย์รวบรวมน้ำนมโค (ผู้ขาย) ตามบัญชีรายชื่อด้วยว่ามีการซื้อขายปริมาณน้ำนมโคเต็มจำนวนที่ได้มีการทำบันทึกช้อตกลง (MOU) กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อหวังประโยชน์จากตัวเลขปริมาณน้ำนมโคโดยมีเจตนาหลีกเสี่ยงการเสียภาษีที่ต้องชำระภาษีให้เต็มจำนวนปริมาณการซื้อขายน้ำนมโคในแต่ละวัน ซึ่งมีมูลค่าการซื้อขายน้ำนมโคเป็นมูลค่าจำนวนเงินมากมายมหาศาล ทางกลุ่มสหกรณ์โคนมผู้ร้องขอทราบผลการดำเนินการและผลการตรวจสอบของกรมสรรพากรด้วย

 

นายอำนวย กล่าวอีกว่า ในวันเดียวได้เดินทางไปยื่นหนังสือปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ประธานคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม/ประธานคณะกรรมการนมเพื่อเด็กและเยาวชน ) เรื่อง ขอเสนอแนวทางการบริหารจัดการน้ำนมโคทั้งประเทศและโครงการนมเพื่อเด็กและเยาวชนสิ่งที่สงมาด้วย สำเนาเอกสารแจ้งกรมสรรพากรตรวจสอบยืนยันการซื้อขายน้ำนมโคด้วยกลุ่มสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ประกอบไปด้วยสหกรณ์โคนมขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็กรวมทั้งกลุ่มนิติบุคคลที่ประกอบอาชีพส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคนมของสมาชิกเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมานานมากกว่า  20-30  ปี มีสมาชิกเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมรวมกันมากกว่าหลายพันครัวเรือนและมีการลงทุนสร้างโรงงานแปรูปผลิตภัณฑ์นมที่มีมาตรฐานขนาดใหญ่เพื่อผลิตและร่วมโครงการนมเพื่อเด็กและเยาวชน (นมโรงเรียน )มาหลายปีการศึกษาแล้ว

 

1. กลุ่มสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ขอปฏิเสธการดำเนินการที่ผ่านมาของชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่ชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทยอ้างถึงปัญหาน้ำนมโคล้นไม่สามารถจำหน่ายได้ของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมาเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งที่ไม่มีปัญหาน้ำนมโคล้นตลาด เนื่องจากว่าชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทยอ้างถึงบันทึกข้อตกลงการซื้อขายน้ำนมโคตาม MOU ว่ามีการซื้อขายน้ำนมโคระหว่างศูนย์รวบรวมน้ำนมโคกับผู้ประกอบการทุกรายหมดสิ้นแล้วและเป็นหลักประกันให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในการจำหน่ายน้ำนมโค

 

 

2.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้นำเสนอขอเงินงบประมาณกลางจากคณะรัฐมนตรีมาซื้อนมกล่องตรานมโรงเรียนรอบที่แล้วจำนวน 1,400  ล้านบาท และกำลังจะดำเนินการอีกจำนวนเงิน  2,800  ล้านบาท ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ว่าขณะนี้ไม่มีน้ำนมโคล้นจริงตามที่ชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทยเรียกร้องขอเงินงบประมาณกลางจากรัฐบาลเพื่อนำมาช่วยเหลือเยียวยาและมีการติดต่อของกลุ่มบุคคลเรียกรับเงินส่วนต่างจากกรณีดังกล่าวจากสหกรณ์โคนมและบริษัทต่างๆ ถ้าได้รับหรือเข้าร่วมโครงการนมเยียวยาโดยมีหลักฐานเป็นเทปบันทึกเสียงและบุคคลที่ถูกเรียกรับเงินเป็นพยานหลักฐาน

 

- ยกเลิกการนำปริมาณน้ำนมโคตามบันทึกข้อตกลงการซื้อขายน้ำนมโค MOU ของคณะอนุกรรมการบริหารนมทั้งระบบ(กรมส่งเสริมสหกรณ์) มาเพื่อการจัดสรรสิทธิจำหน่ายนมโรงเรียนที่ผ่านมา แต่ให้นำพันธะสัญญากับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมาแทนตัวเลข MOU ทั้งนี้ ก็เป็นไปตามเจตนารมณ์ของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  26 มีนาคม  2562 ตัดผู้มีส่วนได้ส่วนเสียออกไปเช่นกันเพราะว่าคณะอนุกรรมการบริหารนมทั้งระบบมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นคณะอนุกรรมการบริหารนมทั้งระบบ

รวมทั้งคณะอนุกรรมการบริหารนมทั้งระบบอยู่ภายใต้คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) และคณะทำงานวิเคราะห์ตัวเลขปริมาณน้ำนมโคนั้นก็เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงแทบทั้งสิ้น8. จากประกาศหลักเกณฑ์นมโรงเรียนปีการศึกษาที่ผ่านมาเป็นประกาศหลักเกณฑ์นมโรงเรียนที่ขัดต่อกฎหมายไม่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  26 มีนาคม 2562  สร้างปัญหาน้ำนมโคล้นจากการจัดสรรสิทธิจำหน่ายนมโรงเรียนเรื่องการปรับลดสัดส่วนของผู้ประกอบการที่มีการรับซื้อน้ำนมโคจริงและมีการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการที่ไม่ได้รับซื้อน้ำนมโคจริงให้ได้รับสิทธิจำหน่ายนมโรงเรียนรวมทั้งเปิดโอกาสให้กับชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทยอ้างถึงปัญหาน้ำนมโคล้นเพื่อเรียกร้องขอความช่วยเหลือเงินงบประมาณกลางจากรัฐบาลเป็นการซ้ำเติมประเทศชาติในยามยากลำบาก

 

ดังนั้นคณะกรรมการนมเพื่อเด็กและเยาวชนต้องดำเนินการจัดการให้มีการตรวจสอบปริมาณน้ำนมโคของศูนย์รวบรวมน้ำนมโคทั้งหมดให้เสร็จเรียบร้อยโดยเร็ว และให้ดำเนินการบริหารจัดการน้ำนมโคให้เกิดความเรียบร้อย โดยนำปริมาณน้ำนมโคทั้งหมดมาใช้ในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนให้พอดีกับความต้องการใช้ในแต่ละวันเต็มจำนวน  365 วัน เพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์นมโรงเรียนส่งมอบให้กับลูกค้าท้องถิ่นคู่สัญญาซื้อขายนมโรงเรียนจำนวน  260  วัน (1,100 ตัน ต่อวัน) ส่วนปริมาณน้ำนมโคที่เหลือจากโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ให้จัดจำหน่ายน้ำนมโคทั้งหมดกับอุตสาหกรรมนมไทยเพื่อผลิตเป็นสินค้านมพาณิชย์

 

 

ขอให้มีการตรวจสอบการซื้อขายน้ำนมโคของสมาชิกสมาคมอุตสาหกรรมนมไทย เพื่อนำตัวเลขปริมาณน้ำนมโคตามบันทึกช้อตกลงการซื้อขายน้ำนมโค MOU ตั้งแต่ปี  2557  ถึงปัจจุบัน  2564 เพื่อขอโควตานำเข้านมผงจากต่างประเทศในอัตราภาษีต่ำว่ามีการซื้อขายน้ำนมโคตาม MOU ว่ามีความผิดปกติจากเดิม สมาชิกสมาคมอุตสาหกรรมนมไทยเคยรับซื้อน้ำนมโคตาม MOU ก่อนการจัดสรรสิทธิจำหน่ายนมโรงเรียนปีการศึกษา  2562-2564  มากกว่าปีละ 2,000  กว่าตันต่อวัน แต่หลังจากมีการจัดสรรสิทธิจำหน่ายนมโรงเรียนปีการศึกษา 2562 เป็นต้นมา

 

 สมาชิกสมาคมอุตสาหกรรมนมไทยกลับรับซื้อน้ำนมโคตาม MOU ลดลงอย่างผิดปกติ ทางกลุ่มสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด เชื่อว่ามีการสนับสนุนตัวเลขปริมาณน้ำนมโคของสมาชิกสมาคมอุตสาหกรรมนมไทย เพื่อช่วยเหลือให้กับผู้ประกอบการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนให้ได้รับสิทธิจำหน่ายนมโรงเรียนเพิ่มขึ้นโดยทุจริต

 

ในปี  2568ประเทศไทยจะต้องเปิดการค้าเสรีกับต่างประเทศภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือ WTO โดยเฉพาะเรื่องการนำเข้านมผงจากต่างประเทศและสินค้านมอื่นฯ ซึ่งเวลานี้ประเทศไทยยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนว่ารัฐจะต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อปีกป้องรักษาอาชีพการเลี้ยงนมของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมภายในประเทศให้อยู่รอดปลอดภัยจากการทุ่มตลาดในการส่งสินค้าผลิตภัณฑ์นมเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยโดยไม่มีกำแพงภาษีหรือภาษีเป็นศูนย์ และไม่มีข้อจำกัดในการนำเข้ามา

 

 

กลุ่มสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ขอให้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดประชุมหารือกับหน่วยงานภาครัฐและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทยโดยเร่งด่วนเพื่อหาวิธีการบริหารจัดการน้ำนมโคทั้งประเทศให้เป็นระบบการจัดการที่ดีเพื่อความมั่นคงของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทย โดยกลุ่มสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็นจำกัด ยินดีเข้าร่วมประชุมเพื่อนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องรวมทั้งต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐในการดำรงอาชีพการเลี้ยงโคนมต่อไป

 

กลุ่มสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ขอให้ท่านพิจารณาลงโทษศูนย์รวบรวมน้ำนมโคและผู้ประกอบการที่แจ้งข้อมูลเท็จตาม MOU เพื่อหวังผลประโยชน์อันมิชอบสร้างความเสียหายให้กับภาครัฐอย่างจริงจัง กลุ่มสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะนำข้อเรียกร้องของกลุ่มสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ไปพิจารณาสั่งการโดยเร็ว

 

 

อนึ่ง สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่แจ้งการซื้อขายน้ำนมโคตาม MOU อันเป็นเท็จ ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจแล้วเมื่อวันที่ 9  มีนาคม  2565