เช็คเงินสมทบกองทุนประกันสังคม นายจ้างผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้สิทธิอะไรบ้าง

01 เม.ย. 2565 | 17:30 น.
อัปเดตล่าสุด :02 เม.ย. 2565 | 00:33 น.
4.0 k

เช็คเงินสมทบกองทุนประกันสังคม กรณีเจ็บป่วย นายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 เพื่อดูแลรักษาผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ดูรายละเอียดที่นี่

จากกรณีที่ สำนักงานประกันสังคม ได้จัดเก็บเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 เพื่อนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมกรณีเจ็บป่วย และ กรณีอื่นๆ นั้น

 

ล่าสุด นางสาวลัดดา แซ่ลี้ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ในฐานะโฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคมได้จัดเก็บเงินสมทบจากนายจ้าง และผู้ประกันตนมาตรา 33 นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมในอัตราฝ่ายละ ร้อยละ 5 ของค่าจ้าง โดยผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้จัดเก็บเงินสมทบในอัตราร้อยละ 5 นั้น จะถูกแบ่งออกเป็น

  • กรณีเจ็บป่วยอัตราร้อยละ 1.06
  • กรณีคลอดบุตรอัตราร้อยละ 0.23
  • กรณีทุพพลภาพอัตราร้อยละ 0.13
  • กรณีตายอัตราร้อยละ 0.08
  • รวมการจัดเก็บทั้ง 4 กรณี อัตราร้อยละ 1.50

แบ่งเป็นการจัดเก็บเงินสมทบอีก 3 กรณี คือ

  • กรณีสงเคราะห์บุตรกับกรณีชราภาพร้อยละ 3.00
  • กรณีว่างงานอีกในอัตราร้อยละ 0.50

 

นางสาวลัดดา กล่าวถึงการจัดเก็บเงินสมทบร้อยละ 1.06 เพื่อดูแลรักษาผู้ประกันตน ในยามเจ็บป่วยนั้น สำนักงานประกันสังคมได้ให้สิทธิการรักษาในสถานพยาบาลตามมาตรฐานการให้บริการ ทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตน โดยสถานพยาบาลมีหน้าที่ให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตนอย่างเต็มกำลังความสามารถตลอด 24 ชั่วโมง และจัดหายาเวชภัณฑ์ ครุภัณฑ์ และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ เพื่อให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตนอย่างเพียงพอจนสิ้นสุดการรักษาโดยไม่จำกัดจำนวนเงินค่าใช้จ่าย และจำนวนครั้งที่เข้ารับการรักษา

 

โดยสถานพยาบาลจะไม่เก็บค่าบริการทางการแพทย์จากผู้ประกันตน โดยเฉพาะ การสั่งจ่ายยาที่ใช้สำหรับผู้ประกันตนจะต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานบัญชียาหลักแห่งชาติ และจะต้องจัดให้ผู้ประกันตนโดยไม่เรียกเก็บเงินเพิ่ม ในกรณีที่ผู้ประกันตนได้รับอุบัติเหตุ หรือมีอาการเจ็บป่วยรุนแรงที่มีความเสี่ยง ต่อการเสียชีวิตสูง สามารถเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดได้ทันที โดยไม่ถูกทวงถาม สิทธิก่อนรักษา ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลไม่ถูกบ่ายเบี่ยงการรักษา และได้รับการดูแลรักษาจนสิ้นสุดการรักษา นอกจากสิทธิการรักษาพยาบาลแล้ว ผู้ประกันตนสามารถเบิกเงินทดแทนการขาดรายได้

  • กรณีหยุดพักรักษาตัวตามคำสั่งแพทย์ ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 90 วัน
  • และปีละไม่เกิน 180 วัน เว้นแต่โรคเรื้อรังไม่เกิน 365 วันต่อปี อีกด้วย

 

 

 

นางสาวลัดดา แซ่ลี้

โฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า สำนักงานประกันสังคมได้มีการควบคุมคุณภาพการให้บริการของสถานพยาบาลในระบบประกันสังคม โดยมีการตรวจประเมินคุณภาพของสถานพยาบาล เป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจสอบความพร้อมของสถานพยาบาลตามมาตรฐานในด้านการบริการทางการแพทย์เป็นสำคัญ หากพบสถานพยาบาลใดมิได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหรือมาตรฐานที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดไว้จะได้รับการลงโทษตามประกาศสำนักงานประกันสังคม คือ ว่ากล่าวตักเตือน ลดจำนวนโควตาผู้ประกันตน ในปีต่อไป ส่งเรื่องให้แพทยสภา หรือยกเลิกสัญญาจ้างแล้วแต่กรณี อย่างไรก็ตามหากผู้ประกันตนไม่ได้รับ ความสะดวกในการเข้ารับบริการทางการแพทย์กับสถานพยาบาลในระบบประกันสังคมสามารถร้องเรียน มาได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ ทั้ง 12 แห่ง หรือที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด / สาขา ทั่วประเทศที่ท่านสะดวก หรือโทร.1506 ตลอด 24 ชั่วโมง.