ดีพร้อม เปิดนโยบายเกษตรอุตสาหกรรม65 ดันมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 1.2 พันล้าน

28 มี.ค. 2565 | 03:11 น.
อัปเดตล่าสุด :28 มี.ค. 2565 | 04:58 น.

ดีพร้อม เปิดนโยบายเกษตรอุตสาหกรรม65 ดันมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 1.2 พันล้าน ชี้ตลาดอาหารสุขภาพ ทางรอดสร้างรายได้ แปรรูปผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร

ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เปิดเผยว่า มาตรการส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรมในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ดีพร้อม ขับเคลื่อนด้วยนโยบาย ดีพร้อมแคร์เกษตรอุตสาหกรรม มุ่งเน้นพัฒนาผู้ประกอบการในทุกมิติ เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับธุรกิจ พร้อมการยกระดับห่วงโซ่อุตสาหกรรม  ประกอบด้วย

 

C-Customization ปรับแนวทางการส่งเสริมผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรม โดยเพิ่มความหลากหลายของการดำเนินการสอดคล้องกับดีมานด์ของผู้ประกอบการ เช่น การส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สนใจเป็นนักธุรกิจเกษตร รวมทั้งพัฒนามาตรฐานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด  

 

ทั้งยังปรับการดำเนินงานให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละภูมิภาค ส่งเสริมการพัฒนาเครื่องจักรตามความต้องการของชุมชน ตัวอย่างเช่น เครื่องขอดเกล็ดปลา เครื่องเผาข้าวหลาม และเครื่องตัดอ้อยขนาดเล็ก เป็นต้น

พร้อมปรับใช้องค์ความรู้ด้านการจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ BIG DATA โดยพัฒนาระบบวิเคราะห์ปัญหาการประกอบการ  (I-Business Check up)  เพิ่มความแม่นยำในการการกำหนดทิศทางและมาตรการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาพปัญหาของห่วงโซ่อุปทาน

 

โดยเก็บข้อมูลจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จัดทำฐานข้อมูลคุณภาพ สำหรับใช้วิเคราะห์แผนพัฒนาที่ตรงจุด ผ่านหลากหลายเครื่องมือ อาทิ การวิเคราะห์สถานประกอบการ (SHINDAN), การวิเคราะห์ DNA ของธุรกิจ และการทำโมเดลวิเคราะห์ตัวแปรไปสู่เป้าหมายองค์กร หรือ Business Canvas เป็นต้น

 

A-Accessibility เพิ่มศักยภาพการให้บริการผ่านการดำเนินงานทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคผ่านศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค หรือ ดีพร้อมเซ็นเตอร์ (DIPROM CENTER) ทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศ ยกระดับการส่งเสริมการใช้งานเครื่องจักรกลให้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ อาทิ เครื่องปรับระดับหน้าดินด้วยเลเซอร์ เครื่องให้ปุ๋ยอัตโนมัติ รถเกี่ยวอ้อย และบริการ OEM แปรรูปผลผลิตจากข้าว 

 

ดีพร้อม เปิดนโยบายเกษตรอุตสาหกรรม65

 

พร้อมประสานความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมเพิ่มประสิทธิภาพของดีพร้อมไอเอดแพลตฟอร์ม(DIPROM i-AID Platform) กระจายโอกาสในการใช้งานเครื่องจักร การให้บริการด้านการออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ (DIPROM PACK)

 

และการให้คำปรึกษาเชิงลึกเพื่อการวางแผนปัจจัยทางธุรกิจ โดยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึงของผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมให้ครอบคลุมมากขึ้น
 

การดำเนินงานในปีนี้จึงเพิ่มเป้าหมายการใช้เครื่องจักรกลขนาดเล็กที่มีความจำเป็นในการประกอบธุรกิจ เพื่อช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมในยุคที่ต้นทุนการผลิตสูง และขาดแคลนแรงงาน

 

อีกทั้ง เป็นการขยายความช่วยเหลือสู่ผู้ประกอบการเกษตรฐานราก พร้อมขยายการให้คำแนะนำกับผู้ประกอบการผ่านช่องทางออนไลน์ที่สอดคล้องกับบริบทของความเป็นปกติใหม่ ทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงบริการที่ทั่วถึง

 

R-Reformation ปฏิรูปโครงการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมตามนโยบาย BCG โดยได้ริเริ่มทดลองดำเนินงานโครงการ The Gifted DIPROM BCG เพื่อศึกษาและพัฒนาแนวทางการเพิ่มผลิตภาพแก่ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมอย่างยังยื่น โดยการพัฒนาการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ หรือการใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

 

รวมทั้งปฏิรูปการพัฒนาทักษะผู้ประกอบการให้มีอาวุธครบด้านในการเริ่มหรือปรับปรุงธุรกิจผ่านโครงการ DIPROM Agro Beyond Academy ปั้นผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมมืออาชีพ ที่สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ได้จริงในกิจการ และสามารถสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างธุรกิจ

 

ดีพร้อม เปิดนโยบายเกษตรอุตสาหกรรม65

 

การปรับเปลี่ยนโครงการและเนื้อหาหลักสูตรให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในการประกอบธุรกิจที่แตกต่างกัน ผ่านกิจกรรมดีพร้อม จีเนียส อะคาเดมี (DIPROM Genius Academy) สร้างงาน สร้างอาชีพ ผ่านโครงการปลูกปั้น รวมถึงพัฒนาผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพให้เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ผ่านกิจกรรม DIPROM Hero

 

E-Engagement ขยายพันธมิตรเกษตรอุตสาหกรรม โดยการประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการรายใหญ่ ส่งเสริม สนับสนุนทุนเพื่อธุรกิจ เปิดช่องทางการตลาดเพื่อเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ ในช่องทางตลาดใหม่ หรือ Modern Trade รวมทั้งพัฒนาความร่วมมือกับสมาคมเครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อชี้เป้าการพัฒนา

 

และบูรณาการความร่วมมือเพื่อให้การพัฒนาเครื่องจักรและเทคโนโลยีสามารถตอบสนองผู้ประกอบการมากที่สุด ทั้งขยายความร่วมมือไปยังสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอี สภาหอการค้า และภาคเอกชน เช่น เครือSCG, ปตท., บากจาก และ เครือCP เป็นต้น เพื่อการต่อยอดและสร้างเครือข่ายการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น 
           

 

ดร.ณัฐพล กล่าวอีกว่า ดีพร้อม มุ่งหวังให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ เพื่อกระจายรายได้อย่างมีประสิทธิภาพไปสู่เศรษฐกิจฐานรากของประเทศ โดยได้พัฒนาเครื่องมือและกลไกต่าง ๆ ให้สามารถปรับใช้ได้กับทุกธุรกิจ เสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน

 

ยกระดับการพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ เตรียมความพร้อมสำหรับการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งการดำเนินงานในส่วนนี้ ได้มอบหมายให้ กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม รับหน้าที่สนับสนุนส่งเสริมผู้ประกอบการ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ภาคเกษตรอุตสาหกรรมไม่น้อยกว่า 1,200 ล้านบาท

 

ดีพร้อม เปิดนโยบายเกษตรอุตสาหกรรม65

 

อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าตลาดเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรม ดีพร้อม ได้ส่งเสริมการใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ช ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (Covid-19) ผ่านโครงการ ปั้น SMEs สู่ B2C ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการ สู่ตลาดอีคอมเมิร์ช (e-Commerce) ทำให้ผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรม 

 

และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ก้าวผ่านวิกฤตและสร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น พร้อมเสริมทักษะการวางแผนโลจิสติกส์ให้มีศักยภาพ และสนับสนุนการพัฒนาเครื่องจักรกลขนาดเล็กเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงของผู้ประกอบการ เสริมศักยภาพให้พร้อมแข่งขันอย่างสมบูรณ์

 

สำหรับแนวโน้มการเติบโตของเกษตรอุตสาหกรรมเป็นที่น่าจับตา ด้วยปัจจัยจากสถาการณ์ต่างๆ ส่งผลให้อุตสาหกรรมอื่นๆ ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว และด้วยศักยภาพความพร้อมของประเทศไทย ที่มีความพร้อมด้านการเกษตร ประกอบกับแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหารสุขภาพเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าในปีที่ผ่านมาตลาดอาหารสุขภาพของไทยเติบโตถึง 5,400 ล้านบาท 

 

ขณะที่มูลค่าตลาดทั่วโลกเติบโตจากการประเมินของยะฮูไฟแนนช์ (Yahoo Finance) สูงถึง 6 ล้านล้านบาท โดยอาหารสุขภาพได้แบ่งประเภทออกเป็นหลายกลุ่ม ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของผู้บริโภค อาทิ อาหารคีโต สำหรับผู้ที่ต้องการลดปริมาณการรับประทานแป้ง อาหารแพลนต์เบส สำหรับผู้ที่ต้องการบริโภคโปรตีนที่ทำมาจากพืช ซึ่งจะเห็นได้ว่าตลาดในกลุ่มอาหารสุขภาพนี้ มีช่องทางสำหรับผู้ประกอบการที่มีความพร้อมในการเข้าถึงส่วนแบ่งชิ้นสำคัญ 

 

โดย Fresh&Friendly Farm ผู้ผลิตเห็ดออร์แกนิค ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยที่มีการทดลองพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากพืช (เห็ดสายพันธุ์ต่าง ๆ)  หรือ แพลนต์เบส ซึ่งได้นำองค์ความรู้ที่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาจาก ดีพร้อม ไปเป็นแรงบันดาลใจและต่อยอดการแปรรูปผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างดี 

 

นางสุชาดา กุลมงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรช แอนด์ เฟรนด์ลีฟาร์ม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเห็ด กล่าวว่า บริษัทฯ เข้าร่วมอบรมในโครงการที่ดีพร้อมจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 ทำให้บริษัทเกิดการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยดีพร้อมได้ช่วยต่อยอดจากมาตรฐาน GMP สู่มาตรฐานฮาลาล สร้างโอกาสในการจัดจำหน่ายไปยังตลาดต่างประเทศ 

 

นอกจากนี้ ยังได้รับการส่งเสริมการสร้างแบรนด์ที่สะท้อนตัวตนของธุรกิจจากโครงการดีพร้อม จีเนียส อะคาเดมี่ (DIPROM Genius Academy) และได้เปลี่ยนจากการเพาะเห็ดขายมาสู่การแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าในตลาดสินค้าออแกนิก ทั้งนี้ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจประสบปัญหา แต่จากการเข้าร่วมโครงการกับดีพร้อมทำให้มองเห็นทางออกของธุรกิจมากขึ้น ผ่านการใช้ช่องทางตลาดออนไลน์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภค 

 

ขณะเดียวกัน ยังได้รับแนวคิดจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ในการต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่านการแปรรูปเห็ดออรินจิเป็นลูกชิ้นปลาหมึกแพลนต์เบส ทำให้มูลค่าผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 สามารถรักษายอดขายสินค้าได้กว่า 10 ล้านบาท และมียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีก่อนโควิด-19 โดยคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 15 ล้านบาทในสิ้นปีนี้