สัตวแพทย์ชี้เนื้อไก่ไทยมาตรฐานโลก ซาอุฯไฟเขียว 11 รง. ตอกย้ำความเชื่อมั่น

25 มี.ค. 2565 | 18:43 น.
อัปเดตล่าสุด :26 มี.ค. 2565 | 01:58 น.

สัตวแพทย์ชี้อุตสาหกรรมเลี้ยงไก่ไทยได้มาตรฐานระดับโลก เน้นความปลอดภัยด้านอาหารตลอดห่วงโซ่การผลิต ยึดหลักสวัสดิภาพสัตว์ มีระบบการป้องกันโรคที่ดีในการเลี้ยง และตรวจสารพิษ สารตกค้าง ซาอุฯไฟเขียวนำเข้าจาก 11 โรงงานตอกย้ำความเชื่อมั่น

 

ผศ.น.สพ.ดร.เกรียงไกร วิฑูรย์เสถียร ภาควิชาเวชศาสตร์และทรัพยากรการผลิตสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีการผลิตและส่งออกเนื้อไก่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก โดยมีประเทศคู่ค้าที่สำคัญ อาทิ  ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ และ ล่าสุด ซาอุดิอาระเบีย อนุญาตนำเข้าไก่สดแช่เย็น-แช่แข็ง และแปรรูปจากประเทศไทยถึง 11 โรงงาน นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย เพราะซาอุฯ เป็นตลาดที่บริโภคเนื้อไก่ขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลก

 

สัตวแพทย์ชี้เนื้อไก่ไทยมาตรฐานโลก ซาอุฯไฟเขียว 11 รง. ตอกย้ำความเชื่อมั่น

 

อุตสาหกรรมการเลี้ยงและผลิตสัตว์ปีกในประเทศไทย ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศเช่นนี้ สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานเนื้อไก่ตลอดห่วงโซ่การผลิตของไทย ตั้งแต่วัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ได้มาตรฐาน ไปถึงกระบวนการเลี้ยงไก่ในฟาร์มระบบปิด ภายใต้การปฏิบัติตามหลักสวัสดิภาพสัตว์  ควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีทันสมัย โดยนำมาตรฐาน Good Agriculture Practices (GAP) หรือ แนวทางด้านการปฏิบัติที่ดีทางด้านการเกษตรเกี่ยวข้องกับฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อ ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลมาเป็นแนวทางปฏิบัติ 

 

สัตวแพทย์ชี้เนื้อไก่ไทยมาตรฐานโลก ซาอุฯไฟเขียว 11 รง. ตอกย้ำความเชื่อมั่น

 

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังนำมาตรฐานด้านระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity System) และ มาตรฐานการควบคุมและเฝ้าระวังโรค (Disease Surveillance System) มาเป็นส่วนสำคัญในการวางระบบการป้องกันโรค และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันไข้หวัดนก ก็มีการนำ “ระบบคอมพาร์ทเมนต์” มาใช้ในการควบคุมและป้องกันโรค ซึ่งระบบคอมพาร์ทเมนต์นี้เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ไทยปลอดจากไข้หวัดนกมานานร่วม 2 ทศวรรษ ตอกย้ำถึงการจัดการการเลี้ยงไก่ของไทยว่ามีความปลอดภัย สามารถส่งออกสร้างรายได้ให้แก่ประเทศได้อย่างต่อเนื่อง

 

สัตวแพทย์ชี้เนื้อไก่ไทยมาตรฐานโลก ซาอุฯไฟเขียว 11 รง. ตอกย้ำความเชื่อมั่น

 

ด้วยความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมการผลิตไก่ไทย ซึ่งมีการปรับปรุงสายพันธุ์สัตว์ปีกที่ดี มีการเลี้ยงในโรงเรือนที่เหมาะสม ให้อาหารและน้ำสะอาดเพียงพอ ไม่ทำให้สัตว์รู้สึกเครียด เจ็บป่วย ส่งผลให้ไก่สามารถเจริญเติบโตได้เต็มที่ตามพันธุกรรม ดังนั้น อุตสาหกรรมไก่ของไทย จึงไม่มีความจำเป็นใดที่จะใช้สารเร่งการเจริญเติบโต

 

ขณะเดียวกัน การใช้สารเร่งโตยังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ประกาศเพิกถอนทะเบียนยาฮอร์โมนชื่อ Hexoestrol หรือ estrogen ตั้งแต่ปี พ.ศ.2529  ซึ่งหากมีการลักลอบใช้ถือว่ามีความผิดและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่สำคัญ ประเทศผู้นำเข้าไก่เนื้อของไทย ทั้งญี่ปุ่น และ สหภาพยุโรป ต่างเข้มงวดกฎเกณฑ์ด้านสุขอนามัยสูงมาก (Sanitary and Phytosanitary :SPS) ยังไม่เคยมีการตรวจพบฮอร์โมนเร่งโตตกค้างในไก่ไทยเลย

 

“ในฐานะนักวิชาการขอยืนยันว่า ไก่เนื้อของไทยมีความปลอดภัยทางอาหาร และมีคุณภาพเดียวกันทั้งที่บริโภคในประเทศและส่งออก  โดยสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ไก่เนื้อจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ เพียงปรุงสุกก่อนรับประทานก็บริโภคได้อย่างสบายใจ” ผศ.น.สพ.ดร.เกรียงไกร กล่าว