ปักหมุดอุดรฯชวนเที่ยวข้ามภาคจากอีสานไป"ภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่จังหวัดอุดรธานี สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวข้ามภาค ภาคใต้-ภาคอีสาน ภายใต้ชื่อว่า”ภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ@ UDONTHANI”

 

ซึ่งเป็นกิจกรรมนำเอาผู้ซื้อ ผู้ขาย ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต มาเปิดบูธโต๊ะเจรจาซื้อขายสินค้าการท่องเที่ยวกับผู้ประกอบการธุรกิจด้านการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวของจังหวัดอุดรธานีและใกล้เคียงโดยตรง( Business Matching) 

กิจกรรมเชื่อมโยงการท่องเที่ยวข้ามภาคครั้งนี้ มีนายสยาม  ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจัวหสัดภูเก็ต น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รอง ผวก.ด้านการตลาดภายในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) นายธเนศ สันติพิริยะกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต

 

นายภูมิกิตต์ รักแต่งาม  นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดในกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (กลุ่มสบายดี) ทั้ง 5 จังหวัด พร้อมด้วยผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจากจังหวัดภาคอีสานตอนบนส่วนหนึง เข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าว  

โดยกิจกรรมเที่ยวข้ามภาคภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ@UDONTHANI  มีการเปิดบูธตั้งโต๊ะเจรจาซื้อขายสินค้าการท่องเที่ยว ของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ที่มีความสวยงามโดดเด่น เช่น การเที่ยวสิ่งปลูกสร้างบ้านเรือนสไตล์ชิโนโปรตุกีสที่สวยงามที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง หรือการเที่ยวแบบผจญภัย การเท่องเที่ยวดูทะเล และการดำน้ำแบบฟรีไดร์ฟวิ่ง เพื่อชมความสวยงามของประการัง ฯลฯ  กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี นักท่องเที่ยว หรือผู้ที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ภูเก็ตและใกล้เคียง ในรูปแบบของBusiness Matching

นายสยาม  ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี  กล่าวว่า จังหวัดอุดรธานีเป็นศูนย์กลางของภาคอีสานตอนบนและพื้นที่ใกล้เคียง มีประชากรรวมแล้วประมาณ 5 ล้านคน และใช้สนามบินอุดรธานีในการเดินทาง รวมไปถึงประชาชนชาวลาวอีกส่วนหนึ่งด้วย  ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิค-19 สนามบินอุดรธานีมีเที่ยวบินให้บริการจากสายการบินต่าง ๆ จำนวน 5 สายการบิน มีเที่ยวมากกว่า 50 เที่ยวบินต่อวัน มากที่สุดในภาคอีสาน

 

รวมทั้งมีเที่ยวบินเชื่อมภาคจากอุดรธานีไปยังภาคต่าง ๆ ทุกภาค ที่บินเชื่อมภาคใต้มี ภูเก็ต หาดใหญ่ ปัจจุบันมีสายการบินให้บริการบินตรงอุดรธานี-ภูเก็ต 2 สายการบิน มีเที่ยวบิน 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จึงเป็นเครื่องยันได้ว่าเป็นเส้นทางบินที่มีความสำคัญ ในด้านการเดินทางธุรกิจและการท่องเที่ยวมาก 

 

จังหวัดอุดรธานีและจังหวัดภูเก็ตมีความเชื่อมโยงกัน ทั้งในด้านธุรกิจ เพราะมีชาวจังหวัดอุดรธานีและใกล้เคียง เดินทางไปประกอบอาชีพต่าง ๆ ที่ภูเก็ตจำนวนมาก ส่วนหนึ่งไปประกอบอาชีพด้านการท่องเที่ยวในสาขาต่าง ๆ จังหวัดอุดรธานีในฐานะที่เป็นจังหวัดหัวหน้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (กลุ่มสบายดี) 5 จังหวัดคือ อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย หนองคาย และบึงกาฬ 

 

มีภารกิจวางยุทธศาสตร์หนึ่งคือ การท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัด ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวครบทุกมิติได้แก่ การท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ธรรมะ และวัฒนธรรมประเพเณี วิถีความเชื่อพญานาค วัดอารามที่มีเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นอันซีนด้านการท่องเที่ยว เช่น ถ้ำนาคา นาคี วัดป่าภูก้อน และแหล่งท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขง และอีกมากมาย

 

พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจากพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ หรือนักท่องเที่ยวจากภูเก็ตที่อยู่ครบกำหนดตามโครงการ  PHUKET Sand Box แล้ว ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวในภาคอีสานตอนบน หรือพื้นที่ต่าง ๆ ของทุกภาค ซึ่งอุดรธานีก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ ที่มีโครงการ UDONTHANI Sand Box เช่นกัน 

 

ด้านนายณรงค์  วุ้นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในระยะ 2 ปีเศษที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ตได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิค-19 เป็นอย่างมาก เรียกว่าภูเก็ตจนลงอย่างทันทีทันใด เพราะรายได้หลักของภูเก็ตประมาณ 95% เป็นรายได้ที่มาจากธุรกิจการท่องเที่ยว 

 

แต่ก็โชคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลให้จังหวัดภูเก็ตเปิดโครงการ PHUKET Sand Box Model ทำให้สถานการณ์ของภูเก็ตค่อยคลี่คลายลงไป แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมป้องกันรักษาความปลอดภัยของ ศบค.จังหวัดอย่างเข้มงวด เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจแก่ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว นักท่องเที่ยว ทั้งไทยและต่างชาติ 

 

ทั้งนี้ การกิจกรรมส่งเสริมการตลาดด้านท่องเที่ยว ในลักษณะเดียวกับกิจกรรมเชื่อมโยงภูเก็ต-อุดรธานี ภายใต้ชื่อ”ภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ" ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 25-27 กุมภาพันธ์ 2565 นี้ ทางจังหวัดภูเก็ตโดยหน่วยงานการท่องเที่ยวทุกหน่วย จะจัดขึ้นในหลาย ๆ พื้นที่ทั่วทุกภาค  เพื่อสร้างเครือข่ายการแลกเปลี่ยนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวกันและกันทุก ๆ พื้นที่  เป็นการกระจายนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าภูเก็ตทำกิจกรรมท่องเที่ยวในพื้นที่ภูเก็ตแล้ว นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วทุกภาค 

 

ขณะเดียวกันภูเก็ตก็หวังให้พื้นที่ต่าง ๆ ส่งนักเดินทางท่องเที่ยวไปเที่ยวที่ภูเก็ตเช่นกัน ส่วนหนึ่งโดยเฉพาะชาวจังหวัดอุดรธานี หนองคายและใกล้เคียง ที่ไปประกอบอาชีพต่าง ๆ ในภูเก็ต และยิ่งหากว่าแผนการการเปิดด้านพรมแดนด้านหนองคาย-เวียงจันทน์ ก็ยิ่งที่จะทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ของภูเก็ตดีขึ้นอีกส่วนหนึ่ง 

 

การเปิดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวภูเก็ต-อุดรธานีนี้ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมมือกันทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำการขับเคลื่อนสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจอีกกิจกรรมหนึ่ง ที่มีความสำคัญมาก เนื่องจากปัจจุบันนี้ธุรกิจการท่องเที่ยว เป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ของเศรษฐกิจของแต่ละพื้นที่และของประเทศ ทำให้เกิดการเดินทางเชื่อมโยงระหว่างภาคต่อภาค จังหวัดต่อจังหวัด การท่องเที่ยวเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด นายณรงค์ฯกล่าว 

 

ด้านนายธเนศ  ตันติพิริยะกิจ   ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าหลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายให้เปิดภูเก็ต แซนด์บอกซ์ และให้การสนับสนุนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทำให้สถานการณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ตคลี่คลายลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ

 

ประกอบกับการที่จังหวัดภูเก็ต ได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงของภูเก็ต และต่อด้วยการจัดกิจกรรมข้ามภูมิภาคไปยังพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดที่มีเที่ยวบินตรงไปยังภูเก็ตก่อน และให้เป็นการร่วมมือกันในด้านการท่องเที่ยวทุก ๆ พื้นที่ ในรูปแบบของการเชื่อมโยงภูมิภาคต่อภูมิภาค ทำให้สถานการณ์ต่างๆคลี่คลายลงเป็นลำดับ 

 

 “จังหวัดภูเก็ตถือว่าเป็นพื้นที่การท่องเที่ยวที่สำคัญของฝั่งทะเลอันดามัน ได้รับการยกย่องว่าเป็นไข่มุกของอันดามัน มีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงาม   เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวครบมิติ “ Sea Sun and Sand” เราหวังนักท่องเที่ยวจากอุดรธานี  และภูมิภาคต่าง ๆ และจากประเทศลาว  ซึ่ง ศบค.มีแผนให้เปิดด่านพรมแดนหนองคาย-เวียงจันทน์ แล้วให้เดินทางไปเยี่ยมเยือนและท่องเที่ยวที่ภูเก็ต ที่เป็นอีกจุดหมายหนึ่งของนักท่องเที่ยว”นายธเนศฯกล่าว