สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำวัตถุดิบอาหารสัตว์พุ่งกระฉูด

24 ก.พ. 2565 | 03:00 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มี.ค. 2565 | 23:47 น.
1.8 k

กระทบเกษตรกรแล้ว เหตุการณ์รัสเซีย-ยูเครนทำวัตถุดิบอาหารสัตว์พุ่งสูง ผู้เลี้ยงไก่วอนรัฐเร่งจัดการปล่อยเนื้อไก่-ไข่ไก่เป็นไปตามกลไกตลาด หนุนเกษตรกรมีกำลังใจทำอาชีพต่อ

 

นางฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยว่า สถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนที่ได้พัฒนาความตึงเครียดไปจนถึงขีดสุดกำลังมีผลอย่างยิ่งต่อราคาธัญพืช ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของการผลิตอาหารสัตว์ เนื่องจากรัสเซียและยูเครนเป็นแหล่งเพาะปลูกสำคัญ ทั้งข้าวสาลี ข้าวโพด ที่อาจไม่สามารถเก็บเกี่ยวหรือทำการส่งออกได้ตามปกติ รวมถึงภัยแล้งในบราซิลที่กระทบปริมาณผลผลิตถั่วเหลืองด้วย

 

ฉวีวรรณ  คำพา

 

โดยราคาข้าวสาลีนำเข้าซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการเลี้ยงไก่ ราคาได้ปรับสูงขึ้นจาก 8-9 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อปี  2564 เพิ่มเป็น 12 บาทต่อกิโลกรัมในปัจจุบัน ส่วนข้าวโพดในประเทศไทยมีราคาปรับไปถึง 11.10 บาทต่อกิโลกรัม และกำลังส่งผลกระทบทางอ้อมต่อวัตถุดิบชนิดอื่นที่มีแนวโน้มราคาสูงตามไปด้วย ปัจจุบันวัตถุดิบอาหารสัตว์ส่วนใหญ่ราคาขึ้นมาสูงกว่า 50-60% แล้ว ยังไม่นับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่จะสูงขึ้นทำให้ต้นทุนค่าขนส่งปรับเพิ่มด้วย

 

สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำวัตถุดิบอาหารสัตว์พุ่งกระฉูด

 

ทั้งนี้ต้นทุนการผลิตเนื้อไก่สูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ราคาเนื้อไก่และไข่ไก่กลับถูกตรึงอยู่ ไม่สะท้อนต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น หากวัตถุดิบทุกชนิดมีราคาสูงเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เกษตรกรคนเลี้ยงสัตว์ไม่มีทางอยู่รอดได้ ซึ่งหากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมราคาวัตถุดิบจากผลกระทบของสถานการณ์ยูเครน ก็ควรปล่อยให้ราคาไก่และไก่ไข่เป็นไปตามกลไกที่ควรจะเป็น เช่นเดียวกับราคาหมูที่ลดลงเพราะกลไกตลาดทำงานอย่างเสรี การยุติการตรึงราคาไก่และไข่ จะช่วยสนับสนุนให้เกษตรกรมีกำลังใจในการเลี้ยงสัตว์ต่อไป

 

อนึ่ง รัสเซียและยูเครนมีปริมาณการส่งออกข้าวสาลีรวมกันประมาณ 29% ของปริมาณการส่งออกทั่วโลก ส่วนข้าวโพด 19% ของตลาดโลก โดยราคาต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์สำคัญมีราคาเพิ่มขึ้นไปแล้ว 40% จากปี 2564