“ศูนย์สิทธิผู้บริโภค” ยื่นหนังสือ “คมนาคม” ค้านต่อสัญญาสัมปทานสายสีเขียว

12 ก.พ. 2565 | 12:01 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.พ. 2565 | 19:06 น.

เครือข่ายศูนย์สิทธิผู้บริโภคกรุงเทพมหานคร ยื่นหนังสือเข้าพบ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ค้านต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว พร้อมเสนอ 6 แนวทาง สกัดขึ้นค่าโดยสาร แก้ระบบตั๋วร่วม

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า นางสำลี สีละพุก ได้นำผู้แทนเครือข่ายศูนย์สิทธิผู้บริโภคกรุงเทพมหานครเข้าพบ เพื่อขอบคุณและให้กำลังใจ และยื่นหนังสือเพื่อเสนอแนวทางต่าง ๆ 

 

 

สำหรับ 6 แนวทางค้านต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ดังนี้ 
1. ขอสนับสนุนกระทรวงฯ ให้ชะลอการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวและขึ้นราคาค่าโดยสารที่ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค  
2. ขอให้กระทรวงฯ ร่วมแสดงจุดยืนและเป็นพลังร่วมกับประชาชนในการคัดค้านการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวล่วงหน้าและกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค
3. ขอให้กระทรวงฯ สนับสนุนการกำหนดสัดส่วนของค่าบริการขนส่งมวลชนต่อรายได้ขั้นต่ำของประชาชนต่อวันไม่เกินร้อยละ 10 ของค่าแรงขั้นต่ำ 
 

4. ขอให้ประกาศนโยบายให้รถไฟฟ้าเป็นบริการขนส่งมวลชนที่ทุกคนต้องขึ้นได้อย่างทั่วถึง 
5. ขอให้สนับสนุนการยกเว้นค่าแรกเข้าที่ซ้ำซ้อนของระบบรถไฟฟ้า และจัดระบบตั๋วร่วม 
6. ขอให้ทบทวนสัญญาสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าทุกเส้นทางในปัจจุบัน และในอนาคต เพื่อศึกษาผลกระทบและกำหนดแนวทางให้เกิดความเป็นธรรมในเรื่องราคาต่อผู้บริโภค

 

 

ทั้งนี้ กระทรวงฯ มีจุดยืนในการขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งกระทรวงฯได้เสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยยึดหลักความถูกต้อง และประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนพึงจะได้รับเป็นลำดับแรก ดังนั้น จะเห็นได้ว่าความเห็นของกระทรวงฯ ได้ให้ความสำคัญกับอัตราค่าโดยสารที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนอย่างยั่งยืนจากปัจจุบันไปสู่อนาคตถึงปี 2602 
 

“ศูนย์สิทธิผู้บริโภค” ยื่นหนังสือ “คมนาคม” ค้านต่อสัญญาสัมปทานสายสีเขียว

อย่างไรก็ตามการกำหนดเงื่อนไขของการเข้าระบบตั๋วร่วมที่ครอบคลุมทุกโครงข่าย และความถูกต้องครบถ้วนของขั้นตอนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ และจะทำให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ โดยมีปริมาณผู้โดยสารมากขึ้นจากอัตราค่าโดยสารที่เป็นธรรม กระทรวงฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากรุงเทพมหานครจะพิจารณาทบทวน   การดำเนินการให้ครบถ้วน และถูกต้องตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี และหลักธรรมาภิบาลที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยมุ่งเน้นที่ประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนและภาครัฐพึงได้รับจากการดำเนินโครงการดังกล่าวต่อไป