น้ำม้นรั่วรอบ2 "ระยอง"ระดมพลรับมือคราบน้ำมันขึ้นหาดซ้ำ

ระยองเตรียมพร้อม  ระดมกำลังคนและเครื่องมืออุปกรณ์ รับมือคราบน้ำมันทะลักหาดแม่รำพึงซ้ำอีกรอบ ด้าน ทร.บินสำรวจพบคราบน้ำมัน ลอยกลางทะเล จ.ระยอง 3 กลุ่ม พร้อมส่งกำพลังพล 50 นาย สนับสนุนการทำงาน

 

น้ำมันรั่วลงทะเลอีกรอบเมื่อบ่ายวันที่     10 กุมภาพันธ์ 2565 ต่อมา SPRC ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า เป็นน้ำมันค้างในท่ออ่อนที่รั่วออกมาขณะเข้าเก็บกู้เพื่อตรวจสอบจุดที่เสียหาย โดยน้ำมันที่รั่วมีปริมาณ 5,000 ลิตร  จนต้องระดมกำลังเก็บกู้อีกรอบ และจากการติดตามพบมีคราบน้ำมันเคลื่อนตัวมุ่งเข้าฝั่ง 

ผู้สื่อข่าวรายงาน ช่วงเช้าวันที่ 11 ก.พ.2565 ที่หาดแม่รำพึง เจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังคงตระเวนออกเก็บตัวอย่างน้ำทะเลและทรายใต้ ไปทำการตรวจสอบหาสารตกค้าง ที่เกิดจากผลกระทบกรณีน้ำมันดิบรั่วลงทะเลระยอง 
    

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ เผยว่า ได้มีการจัดเก็บตัวอย่างน้ำทะเลและทราย นำไปตรวจสอบสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อตรวจหาสารตกค้าง  โดยจัดเก็บตามชายหาด ตั้งแต่ชายหาดพลา จรดชายหาดสวนสน รวม 12 จุด และบนเกาะเสม็ดอีก 2 จุด คือบริเวณหาดทรายแก้ว และหาดอ่าวพร้าว

ขณะที่ตลอดแนวชายหาดแม่รำพึง ทาง SPRC  ได้จัดกำลังคนออกทำการเก็บกวาดขยะมูลฝอย ตลอดชายหาด เพื่อฟื้นฟูสภาพชายหาด อีกทั้งเพื่อเฝ้าระวังคราบน้ำมันตามแนวชายหาดอีกด้วย  ซึ่งช่วงเช้านี้ยังไม่พบมีคราบน้ำมันทะลักขึ้นตามแนวชายหาดแต่อย่างไร  

 

ด้านทัพเรือภาคที่ 1 ส่งเฮลิคอปเตอร์ ขึ้นบินสำรวจคราบน้ำมันที่รั่ว ครั้งที่ 2 ในทะเล จ.ระยอง ซึ่งเป็นจุดเดิมที่เกิดการรั่วเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน  พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 บอกว่า เจ้าหน้าที่พบว่าคราบน้ำมันแตกตัวออกเป็น 3 กลุ่ม
    

โดยกลุ่ม 1 และกลุ่ม 3 พบเพียงลักษณะคล้ายแผ่นฟิล์มบางๆ  /ส่วนกลุ่ม 2 พบคราบสีฟ้าชัดเจน กำลังใช้อุปกรณ์แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้ง กองทัพเรือได้จัดส่งกำลังพลทัพเรือภาคที่ 1 จำนวน 40-50 นาย ลงพื้นที่ จ.ระยอง เพื่อเตรียมพร้อมในการปฏิบัติงาน  กรณีกำจัดคราบน้ำมัน  โดยจะมีการประสานกับทางจังหวัดระยอง แก้ปัญหาครั้งนี้ร่วมกัน 
  

ทั้งนี้ ตามแนวชายหาดแม่รำพึงเวลานี้  ได้มีการระดมกำลังคน และอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ เข้าพื้นที่ เตรียมพร้อมเพื่อรับมือคราบน้ำมันดิบที่อาจจะทะลักขึ้นชายหาดแล้ว 
    

ส่วนเหตุน้ำมันรั่วซ้ำนี้  เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 10 ก.พ.2565 ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดระยอง ว่าที่ ร.ต.พิรุณ เหมะรักษ์ รองผู้ว่าฯระยอง ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปริมาณการรั่วไหลของน้ำมัน บ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน)(SPRC)  และนายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง เปิดแถลงข่าวด่วน หลังมีรายงานว่า มีน้ำมันดิบรั่วไหลกลางทะเลซ้ำจุดเดิมอีก สาเหตุเกิดจากทางบริษัท SPRC ได้มีการยกท่ออ่อนขนถ่ายน้ำมัน บริเวณทุ่นขนถ่ายน้ำมันกลางทะเลจุดที่พบการรั่วไหลครั้งที่ผ่านมา ขึ้นมาตรวจสอบ แต่พบว่ามีน้ำมันค้างท่ออยู่ จึงเกิดการรั่วไหลลงทะเลซ้ำอีก 
    

ว่าที่ ร.ต.พิรุณ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้(10ก.พ.2565) เวลาประมาณ 09.00 น.ได้รับแจ้งจาก บ. SPRC ว่าได้เกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลซ้ำอีกจุดเดิมที่มีการรั่วไหลกลางทะเลเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุเกิดจากเจ้าหน้าที่ของ บ. SPRC ได้มีการยกท่ออ่อนจุดที่รั่วไหลขึ้นมาตรวจสอบ แต่พบว่ามีน้ำมันดิบค้างท่ออยู่ จำนวน 5,000 ลิตร เกิดรั่วไหลลงทะเล แต่เป็นน้ำมันที่ไม่หนาแน่นเหมือนครั้งที่ผ่านมา 

โดยจุดที่พบคราบน้ำมันอยู่ห่างทุ่นขนถ่ายน้ำมันประมาณ 3 ไมล์ทะเล และอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 20 กม.เบื้องต้นทางบริษัทฯ ได้ระดมเรือ จำนวน 9 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ เข้าควบคุมสถานการณ์ โปรยสารเคมีสลายคราบน้ำมันดังกล่าวอย่างเร่งด่วนแล้ว อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และเอาอยู่ไม่พัดเข้าฝั่งแน่นอน

 

ด้านนายสุรินทร์ สินรัตน์ ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน จ.ระยอง  ได้กล่าวว่า ตนเองได้รับแจ้งจากชาวประมง ว่าพบคราบน้ำมันเมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 10 ก.พ. ในช่วงเช้าจึงได้ออกไปตรวจสอบในทะเลตรงจุดที่พบคราบน้ำมัน โดยอยู่ห่างจากจุดเดิมประมาณ 5 กิโลเมตร รวมระยะทางห่างจากฝั่งประมาณ 25 กิโลเมตร 

 

เมื่อเดินทางไปถึงบริเวณกลางทางตามจุดที่รับแจ้ง พบคราบน้ำมันเป็นวงกว้าง ส่วนสาเหตุคาดเกิดจากการเคลื่อนย้ายท่อที่เกิดเหตุครั้งก่อนที่มีน้ำมันค้างท่ออยู่ น้ำมันจึงไหลทะลักขณะขนย้ายออกมาในทะเล การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดระยอง ที่ประกาศภาวะฉุกเฉิน ไม่สามารถกระทำการใด ๆ โดยไม่ได้ขออนุญาต การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของจ.ระยอง จนก่อเกิดความเสียหายซ้ำขึ้นมาอีก 

ขณะที่พลเรือโท ปกครอง  มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงข่าวกรณีที่เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 บริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ SPRCได้ประกาศภาวะฉุกเฉินน้ำมันรั่วไหล Tier 1  (ภาวะน้ำมันรั่วไหลขนาดเล็ก ไม่เกิน 20 ตัน) เนื่องจากพบฟิล์มน้ำมันดิบ(สีเงิน)บริเวณทิศเหนือ ห่างจากทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล ประมาณ 3 ไมล์ เนื่องจากมีการเข้าไปเก็บหลักฐานเพื่อประกอบทางคดี และมีการสอบสวนถึงน้ำมันในท่อและระบบ ซึ่งขณะทำการตรวจสอบได้เกิดการรั่วไหลของน้ำมันค้างท่อจำนวนประมาณ 5,000 ลิตร 

 

และบริษัทฯ ได้ขอกำลังทางเรือและอากาศยานจากทัพเรือภาค 1 ขึ้นบินลาดตระเวณตรวจคราบน้ำมันและวางแผนการใช้สารขจัดคราบน้ำมันพื้อระงับเหตุให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว และอยู่ในวงจำกัดที่สุด 

ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ ขึ้นสำรวจและกำหนดแนวทางการใช้สารให้ได้ประโยชน์สูงสุดในจุดที่เกิดคราบน้ำมันแล้ว   โดยสถานการณ์ล่าสุดคราบน้ำมันอยู่ในวงจำกัดเหลือให้เห็นเป็นแค่ฟิล์มบาง ๆ 

 

ส่วนการจัดโครงการฟื้นฟูความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวระยอง ภายใต้งาน "ระยองอินเลิฟ ชวนชิมริมเล" ระหว่างวันที่ 12-14 ก.พ. 2565 ที่บริเวณลานหินขาว ชายหาดแม่รำพึง ยังคงมีการเตรียมงานอย่างเต็มที่ คาดว่าจะเริ่มวันพรุ่งนี้ ตามกำหนดการเดิม

กิจกรรมภายในงาน ฯ ประกอบด้วย กิจกรรมกินอาหารทะเลฟรี ตลอดทั้ง 3 วัน โดยต้องเป็นอาหารทะเลจากผู้ประกอบการ หรือกลุ่มประมง ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งจะเปิดให้ชิมอาหารทะเลฟรี เวลา 17.00 น. และการแสดงดนตรีสด การทำอาหารโชว์จากเชฟชื่อดัง ในจังหวัดระยอง ตลอดจนกิจกรรมเชิญดารานักแสดง และยูทูบเบอร์ร่วมชิม อาหารทะเลของจังหวัดระยอง และกิจกรรมจดทะเบียนสมรสในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565