“เจ้าท่า” เร่งเอาผิด “บมจ.สตาร์ปิโตรเลียม” เหตุน้ำมันรั่วมาบตาพุด

31 ม.ค. 2565 | 15:47 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ม.ค. 2565 | 22:59 น.

“เจ้าท่า” จ่อดำเนินคดีเอาผิด บมจ.สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง เหตุน้ำมันรั่วมาบตาพุด เตรียมประเมินความเสียหาย หลังกระทบสิ่งแวดล้อม-ระบบนิเวศทางทะเล สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสกัดคราบน้ำมันต่อเนื่อง

นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีด้านความปลอดภัย กรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยในกรณีน้ำมันดิบรั่วไหลจากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล บริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง ว่า เบื้องต้นกรมเจ้าท่า ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ภายใต้แผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ 2545 เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติและความรับผิดชอบทั้งภาครัฐและเอกชน ในการขจัดมลพิษทางน้ำและยกระดับเหตุน้ำมันรั่วในน่านน้ำ ให้เป็นเหตุการณ์รุนแรงระดับชาติ เพราะสร้างความเสียหายต่อทรัพยากรและประชาชน ซึ่งตามแผน ได้กำหนดให้คณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เป็นผู้สั่งการสูงสุด มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน 

 

 

 

นายภูริพัฒน์  กล่าวต่อว่า กรมเจ้าท่า ในฐานะผู้เสียหายในฐานความผิดของบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) กรณีน้ำมันรั่วไหลจากทุ่นผูกเรือน้ำลึกหรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล ได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับกรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) จนคดีถึงที่สุด โดยฐานความผิดดังกล่าวเป็นเหตุให้เกิดมลพิษต่อสิ่งมีชีวิตหรือต่อสิ่งแวดล้อม หรือเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ อันเป็นความผิดตามมาตรา 119 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พุทธศักราช 2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2535 และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 
 

“เราร่วมประเมินความเสียหายทางด้านสิ่งแวดล้อมก่อนแจ้งกรมเจ้าท่าดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของน้ำมันที่เข้าสู่ชายฝั่ง ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ระบบนิเวศ การช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูนั้นจะได้ตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบ เช่น  การท่องเที่ยว ชาวประมง หากมีจะดำเนินการเยียวยาตามความเสียหายที่เกิดจริง โดยจะมีหน่วยที่รับผิดชอบตอบข้อสอบถามความเสียหาย รวมถึงช่องทางการให้ผู้ได้รับผลกระทบร้องทุกข์ตามช่องทางที่จัดหาให้ต่อไป”

 


ทั้งนี้กรมเจ้าท่า โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาระยอง มีการออกคำสั่งระงับใช้งานทุ่นเทียบเรือ Single Point Mooring (SPM) ของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด จนกว่าจะมีการแก้ไข ตรวจสอบความแข็งแรงมั่นคง และความพร้อมของท่อขนส่งน้ำมันใต้น้ำให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ 100% และประกาศกรมเจ้าท่า ฉบับที่ 4/2565 แจ้งเตือนให้ผู้เดินเรือระมัดระวังการเดินเรือ บริเวณทุ่นเทียบเรือ SPM จังหวัดระยอง 

“เจ้าท่า” เร่งเอาผิด “บมจ.สตาร์ปิโตรเลียม”  เหตุน้ำมันรั่วมาบตาพุด

 

 

ขณะเดียวกันทางบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด จะดำเนินการเร่งขจัดคราบน้ำมันให้แล้วเสร็จ ระหว่างวันที่ 26-29 มกราคม 2565 กรมเจ้าท่า นำเรือตรวจการณ์ 804 ปฏิบัติการร่วมกับบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด ในการใช้สาร dispersant ขจัดคราบน้ำมันไปแล้วประมาณ 7 หมื่นลิตร ซึ่งการใช้สาร dispersant จะอยู่ภายใต้การควบคุมของกรมควบคุมมลพิษ ในการกำหนดปริมาณสารที่จะใช้ โดยจะใช้สารจุลินทรีย์ชีวภาพในการขจัดคราบน้ำมันร่วมด้วย เพื่อลดผลกระทบทางด้านระบบนิเวศทางทะเลไม่ให้มีการใช้สารเคมีในปริมาณที่มากเกินไปพร้อมกันนี้ได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการเดินเรือบริเวณทุ่นท่าเทียบเรือ SPM เจ้าท่าจังหวัดระยอง มีคำสั่งระงับการใช้งานทุ่นเทียบเรือ SINGLE POINT MOORING (SPM) จนกว่าจะดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้แล้วเสร็จ
 

ที่ผ่านมาการดำเนินคดี ระหว่างวันที่ 26-29 มกราคม 2564 กรมเจ้าท่า นำเรือตรวจการณ์ 804 ปฏิบัติการร่วมกับบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด ในการใช้สาร dispersant ขจัดคราบน้ำมันไปแล้วประมาณ 7 หมื่นลิตร ซึ่งการใช้สาร dispersant จะอยู่ภายใต้การควบคุมของกรมควบคุมมลพิษ ในการกำหนดปริมาณสารที่จะใช้ โดยจะใช้สารจุลินทรีย์ชีวภาพในการขจัดคราบน้ำมันร่วมด้วย เพื่อลดผลกระทบทางด้านระบบนิเวศทางทะเลไม่ให้มีการใช้สารเคมีในปริมาณที่มากเกินไป พร้อมกันนี้ได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการเดินเรือบริเวณทุ่นท่าเทียบเรือ SPM เจ้าท่าจังหวัดระยอง มีคำสั่งระงับการใช้งานทุ่นเทียบเรือ SINGLE POINT MOORING (SPM) จนกว่าจะดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้แล้วเสร็จ ในการดำเนินคดี

“เจ้าท่า” เร่งเอาผิด “บมจ.สตาร์ปิโตรเลียม”  เหตุน้ำมันรั่วมาบตาพุด

 

 

อย่างไรก็ตามวันที่ 30 มกราคม 2565 กรมเจ้าท่า นำเรือเด่นสุทธิพร้อมใช้ทุ่น 350 เมตร ล้อมกักน้ำมัน โดยบูรณาการร่วมภารกิจได้แก่ เรือเด่นสุทธิ และเรือแสมสาร ลากทุ่น เรือตรวจการณ์ 802 ลาดตระเวน เรือตรวจการณ์ 804 ลาดตระเวนเรือชัยฟูรี่1 ลาดตระเวน- เรือ UNIWISE RAYONG บัญชาการ เรือศรีธาราลักษณ์ 8 และKNO103ลากทุ่น เรือRS38 และSC DISCOVERYลากทุ่น เรือRS24 และเรือรุ่งนที5 ลากทุ่น เรือRS25 และเรือRS22 ลากทุ่นเรือTINDY2 และ เรือรุ่งนที 7 ลากทุ่น เรือFS9 และเรือธวัชชัยรวยทรัพย์ ลากทุ่นบริเวณหาดแม่พิมพ์ เรือFS4 ตรวจตราและสูบน้ำมันบริเวณหาดแม่พิมพ์