อธิบดีกรมปศุสัตว์ รับนโยบายนายก สั่งการด่วน เข้มมาตรการคุมโรคทุกพื้นที่

15 ม.ค. 2565 | 09:38 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ม.ค. 2565 | 16:51 น.

อธิบดีปศุสัตว์รับนโยบายนายก เรียกประชุมสั่งการด่วนทุกพื้นที่เข้มมาตรการควบคุมโรค พร้อมประสานงานทุกภาคส่วน เร่งเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรโดยลดผลกระทบให้น้อยที่สุด

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ตามที่ประเทศไทยได้ประกาศพบโรค ASF ในสุกร ท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยอย่างมากได้เรียกประชุมด่วนเพื่อเร่งแก้ปัญหาโรคระบาดหมู โดยได้มอบนโยบายให้กรมปศุสัตว์เร่งตรวจสอบการขึ้นทะเบียนเกษตรเจ้าของฟาร์มผู้เสียหายให้ครอบคลุมทั้งรายย่อยและรายใหญ่

อธิบดีกรมปศุสัตว์ รับนโยบายนายก สั่งการด่วน เข้มมาตรการคุมโรคทุกพื้นที่

โดยให้ประสานความร่วมมือไปยังกระทรวงมหาดไทย องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และให้กรมปศุสัตว์ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพการเลี้ยงสุกร ทั้งโรงฆ่าสัตว์ และเขียงหมูโดยเร็ว 

รวมทั้งให้ปศุสัตว์จังหวัดและสัตวแพทย์ ติดตามพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคเพื่อเร่งสอบสวนหาสาเหตุเพื่อควบคุมโรคได้โดยเร็ว และให้เพิ่มช่องทางและเน้นการประชาสัมพันธ์สื่อสารข้อมูลเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู รวมทั้งการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้เสียหาย เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายแก่เกษตรกรและอุตสาหกรรมการผลิตสุกรให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด นั้น

อธิบดีกรมปศุสัตว์ รับนโยบายนายก สั่งการด่วน เข้มมาตรการคุมโรคทุกพื้นที่

กรมปศุสัตว์เร่งดำเนินการทันทีตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ได้ประชุมด่วนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลังจากประชุมกับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ (14 ม.ค.65) ทันที ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคทั่วประเทศผ่านระบบออนไลน์ 

ประกอบด้วย สำนักงานปศุสัตว์เขต 1-9 สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดทุกจังหวัด ด่านกักกันสัตว์ สำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กองสารวัตรและกักกัน สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ สำนักพัฒนาพันธุ์สัตว์ สำนักพัฒนาอาหารสัตว์ สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ เป็นต้น

 

เพื่อเร่งดำเนินการตามนโยบายนายกรัฐมนตรี และดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคของกรมปศุสัตว์อย่างเคร่งครัด

 

โดยได้สั่งการให้ทุกเขตและจังหวัดจัดตั้ง WARROOM เพื่อสื่อสารข้อมูลกับประชาชนและรายงานการดำเนินงานทุกวันต่อผู้บริหารอย่างทันท่วงที ทุกพื้นที่ให้การบังคับ ใช้กฎหมายในการควบคุมป้องกันและการเคลื่อนย้ายสัตว์ต้องโปร่งใส ไม่มีการสร้างเงื่อนไข และให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของเกษตรกรเป็นหลัก ไม่สร้างความเดือดร้อนหรือภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มแก่เกษตรกร

 

สำรวจการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูและปริมาณหมูที่คงเหลือในระบบ พร้อมทั้งสำรวจปริมาณความต้องการประชาชนต่อการบริโภคและใช้เนื้อหมูในประเทศ รวมทั้งปริมาณการส่งออก เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์บริหารจัดการแก้ไขปัญหาความต้องการสุกรทั้งระบบ ให้ศึกษาการเพิ่มผลผลิตสุกรแม่พันธุ์และลูกหมูในระบบการเลี้ยง ที่มีความปลอดภัยทางชีวภาพและการช่วยเหลือบริการเกษตรกรผู้เลี้ยงรายย่อยและรายเล็ก

 

การช่วยเหลือด้านอาหารสัตว์และศึกษาวิจัยด้านอาหารสัตว์เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการผลิต การร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เช่น พาณิชย์ในการตรวจสอบห้องเย็น เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง การรายงานโรคตามระบบรายงานโรคระบาดในสุกร ให้ดำเนินการตามมาตรการที่แจ้ง

 

จังหวัดที่พบโรคให้รีบรายงานแจ้งไปยังผู้ว่าราชการและส่วนกลางทันที บูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อสอบสวนโรคทางระบาดวิทยา และหาสาเหตุ เพื่อควบคุมโรคโดยเร็ว ทำการประเมินความเสี่ยงและการตรวจสอบให้แน่ใจว่าปลอดเชื้อโรค ASF ในสุกร ก่อนทำการลงเลี้ยงรอบใหม่

 

สิ่งสำคัญที่สุดคือ การผลักดันให้เกษตรกรผู้เลี้ยงรายย่อย ทำการเลี้ยงโดยปรับปรุงฟาร์มให้มีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นการป้องกันโรคเข้าฟาร์มได้ดีที่สุด เนื่องจากโรคนี้ไม่มีวัคซีนและยารักษาที่จำเพาะ โดยทำฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM: Good Farming Management) เพื่อลดความเสียหายสามารถป้องกันการเกิดโรคได้

 

และเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเพื่อยกระดับเป็นฟาร์มที่มีการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices: GAP) และการรายงานผลตรวจโรคหากตรวจพบผลบวกต่อเชื้อ ASF ในสุกรให้ในใบรายงานผลเพิ่มข้อแนะนำและมาตรการดำเนินการให้เกษตรกรทราบเพื่อจะได้ดำเนินการได้ถูกต้องเพื่อลดความเสียหายจากการแพร่กระจายโรคด้วย

 

ทั้งนี้ ขอย้ำให้ทุกเขตทุกจังหวัดทำการสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจ กับเกษตรกรรายย่อย ให้ปรับปรุงฟาร์มให้มีความปลอดภัยทางชีวภาพ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการป้องกันโรค หากพบโรคให้จังหวัดรายงานและดำเนินการสอบสวนทันที ถ้าไม่ทำตามจะถือว่ามีความผิด ละเลยการปฏิบัติงานในหน้าที่

 

การปฏิบัติงานและการรายงานของ WARROOM ในทุกเขตและจังหวัด ให้ดำเนินการทุกวันไม่เว้นแม้ในวันหยุดราชการ และเสาร์-อาทิตย์ จนกว่าสถานการณ์โรคจะคลี่คลาย

 

พร้อมเร่งช่วยเหลือเยียวยาให้บริการเกษตรกรและจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายจากการทำลายสุกรเพื่อป้องกันโรคโดยเร็ว โดยขอให้ทุกคนร่วมมือกันเพื่อผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ การดำเนินงานทุกอย่างให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน ส่วนรวมและประเทศชาติเป็นสำคัญ