"สิงห์บุรี-ลพบุรี"ยังวุ่นเก็บงาน"ซ่อมพนัง-สูบน้ำค้างทุ่ง"ลงคลอง

29 ต.ค. 2564 | 19:16 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ต.ค. 2564 | 02:34 น.

    ที่ลุ่มภาคกลางยังมือระวิงแก้น้ำหลาก สิงห์บุรีเร่งซ่อมพนังคุมน้ำทะลักทุ่งเชียงราก ลพบุรีระดมสูบน้ำค้างทุ่งที่เริ่มเน่าเสีย ลงคลองชัยนาท-ป่าสัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สภาพอากาศภาคกลางที่แม้ฝนจะเริ่มทิ้งช่วงไปบ้าง    แต่จังหวัดในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา อย่างจังหวัดสิงห์บุรี ที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงสูงอยู่  ซึ่งหากมีฝนตกในพื้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยาที่จ.ชัยนาท

ทำให้ต้องเร่งการระบายน้ำในเขื่อน จะทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อน เช่น อ.สรรพยา จ.ชัยนาท และ จ.สิงห์บุรี ทั้ง อ.อินทร์บุรี  อ.เมืองสิงห์บุรี อ.พรหมบุรี   ไปจนถึง จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา   ได้รับผลกระทบ ปริมาณน้ำล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้    

แม้ในตัวเมืองสิงห์บุรี ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ  จะมีพนังกั้นน้ำไว้ตลอดแนว เป็นระยะทางกว่า 3 กม. แต่จากสภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีระดับความสูงกว่าถนนในตัวตลาดถึง 1 เมตร ก็ยังทำให้ประชาชนต่างวิตกกังวล เกรงว่าอาจมีรอยร้าวของพนังกั้นน้ำ ถึงกับมีการตรวจตราอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง

เจ้าหน้าที่กรมชลประทานเร่งนำบิ๊กแบ็กอุดซ่อมคันดินแนวพนังกั้นน้ำที่พังเสียหายจนน้ำทะลักเข้าท่วมอ.อินทร์บุรี

\"สิงห์บุรี-ลพบุรี\"ยังวุ่นเก็บงาน\"ซ่อมพนัง-สูบน้ำค้างทุ่ง\"ลงคลอง

ล่าสุดมาเกิดเหตุแนวดินกั้นน้ำในพื้นที่ชุมชนวัดปราสาท หมู่ 4 ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี พังเสียหาย ทำให้มวลน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำสูงถึง 1.5 -2 เมตร ประชาชนต้องขนของฝ่าน้ำออกมาอย่างทุลักทุเล   ที่ว่าการอำเภออินทร์บุรี  สถานีตำรวจ  ตลาดฝั่งตะวันตก  ต้องจมอยู่ใต้น้ำ    

นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม  ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี  ต้องระดมสรรพกำลังซ่อมแซมพนังกั้นน้ำ ให้กลับคืนสภาพปกติ และสูบน้ำที่ท่วมลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาจนกลับมาอยู่ในสภาพปกติ  

\"สิงห์บุรี-ลพบุรี\"ยังวุ่นเก็บงาน\"ซ่อมพนัง-สูบน้ำค้างทุ่ง\"ลงคลอง  

ขณะที่บริเวณคันคลองระบายใหญ่ชัยนาท-ป่าสัก 2  (หรือที่ชาวบ้านเรียกคลองเชียงราก)  ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี  ถูกน้ำกัดเซาะความยาวประมาณ 50 เมตร ลึก 2เมตร   ทำให้น้ำไหลเข้าพื้นที่ทุ่งเชียงรากบางส่วนไหลไปสู่คลองระบายใหญ่ชัยนาท-ป่าสัก3 (ชาวบ้านเรียกว่า แม่น้ำบางขาม)   ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้มวลน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ ต.สร้อยทอง อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ อ.บ้านหมี่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี

 

    \"สิงห์บุรี-ลพบุรี\"ยังวุ่นเก็บงาน\"ซ่อมพนัง-สูบน้ำค้างทุ่ง\"ลงคลอง
    ผู้ว่าฯสิงห์บุรี พร้อมด้วยนายสมชาย ลีหล้าน้อย รอง ผวจ.สิงห์บุรี น.ส.นงเยาว์ เทพศิริ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย   นายปัญญา ใช้เฮ็ง  นอภ.เมืองสิงห์บุรี นางศิริลักษณ์ เหมาะพิชัย นอภ.อินทร์บุรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจ จ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน จากสำนักงานชลประทาน เขต 10 ที่ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยนำกระสอบทรายขนาดใหญ่ (ถุง BIGBAG) อุดจุดถนนคันดินที่น้ำเข้า เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมพื้นที่ทุ่งเชียงรากและชุมชนใกล้เคียง   
                 

\"สิงห์บุรี-ลพบุรี\"ยังวุ่นเก็บงาน\"ซ่อมพนัง-สูบน้ำค้างทุ่ง\"ลงคลอง

ทางด้าน จ.ลพบุรี  นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.ลพบุรี พร้อมด้วย นายประเสริฐ เล็กรุ่งเรืองกิจ  ผอ.สำนักงานชลประทานลพบุรี พร้อมคณะลงพื้นที่แนวคลองชลประทานสาย ชัยนาท – ป่าสัก ในเขตอำเภอบ้านหมี่ และอำเภอเมืองลพบุรี

ซึ่งก่อนหน้านี้มีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง และตอนนี้ระดับน้ำลดลงแล้ว แต่ยังคงมีบางพื้นที่น้ำยังขังและเริ่มที่จะเน่าเสียมีกลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน รวมทั้งยังอาจส่งให้เกิดโรคระบาดที่มากับน้ำด้วย    

สำหรับในการลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการเร่งแก้ใขปัญหา วางแผนในการระบายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพื้นที่ชุมชน โดยพบว่าปัจจุบันพื้นที่ฝั่งซ้ายคลองชัยนาท-ป่าสัก มีปริมาณน้ำท่วมขังที่ค้างอยู่ในทุ่งประมาณ 35 ล้านลูกบาศก์เมตร  

\"สิงห์บุรี-ลพบุรี\"ยังวุ่นเก็บงาน\"ซ่อมพนัง-สูบน้ำค้างทุ่ง\"ลงคลอง

จะต้องเร่งระบายลงสู่คลองชลประทานสายดังกล่าว  แต่พบว่าปริมาณน้ำในคลองยังมีระดับสูงอยู่ จึงต้องประสานไปยังสำนักงานชลประทานที่ 12 ที่ดูแลประตูระบายน้ำมโนรมย์ ในการส่งน้ำเข้ามาในคลองชลประทาน 

เพื่อให้ปรับระดับลดลงประตูระบายน้ำลงจากอัตรา 140 เหลือ 120 ลบ.ม./วินาทีประมาณ 2-3 วัน เพื่อให้ระดับน้ำในคลอง ชัยนาท-ป่าสัก มีระดับต่ำลง และสามารถระบายน้ำท่วมขังบริเวณพื้นที่ฝั่งซ้ายลงคลองชัยนาท-ป่าสัก ได้เร็วขึ้น

\"สิงห์บุรี-ลพบุรี\"ยังวุ่นเก็บงาน\"ซ่อมพนัง-สูบน้ำค้างทุ่ง\"ลงคลอง

โดยสูบน้ำด้วยเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่และตามสถานีสูบน้ำ ซึ่งมีอยู่ตลาดตามแนวคลองชลประทานได้สูบน้ำลงไปในคลองได้อย่างมีประสิทธิภาพเข้าสู่สภาวะปกติ.