ถกปัญหาจัดการกากอุตสาหกรรมไม่ให้กระทบสวล.

20 ต.ค. 2564 | 18:33 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ต.ค. 2564 | 01:43 น.

ทส. -คพ.เปิดเวทีถกปัญหาบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม10 ปี พบเกิดเหตุ 20 ครั้งต่อปี หลายหน่วยงานกำกับดูแลเข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย

 

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลสถิติของ คพ. กรณีการลักลอบทิ้งกากของเสียอันตรายจากอุตสาหกรรม ตลอดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าเกิดเหตุขึ้นประมาณ 20 ครั้งต่อปี แม้ว่าหน่วยงานที่กำกับดูแลมีการบังคับใช้กฎหมายเข้มงวดขึ้น แต่เหตุการณ์ในลักษณะนี้ยังเกิดขึ้นเป็นประจำ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่โรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก โดยพบว่าจังหวัดที่มีสถิติการลักลอบทิ้งกากของเสียอันตรายสูงสุดยังคงอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก และภาคกลาง ได้แก่

จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดราชบุรี ในช่วง 3 ปีหลัง (ปี 2561 – 2563) พบว่ามีการลักลอบทิ้งฯ จำพวกซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เสื่อมสภาพและวัสดุไม่ใช้แล้วที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีการจัดการอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ มีความเสี่ยงจากผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน และส่งผลต่อการบริหารจัดการกากของเสียอันตรายในภาพรวมของประเทศไทย กรณีตัวอย่างที่เป็นข่าว เช่น บริษัท วินโพเสส จำกัด (ระยอง) บริษัท เอกอุทัย จำกัด (นครราชสีมา) บริษัท แวกซ์ กาเบ็จรีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด (ราชบุรี) บริษัท ที เอช เอช โมลีโพรเซสซิ่ง (ฉะเชิงเทรา) จำกัด

ถกปัญหาจัดการกากอุตสาหกรรมไม่ให้กระทบสวล.

 

นายอรรถพล กล่าวว่า เพื่อระดมความคิดเห็นหาแนวทางและกลไกในการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างเครือข่ายในการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ คพ. จึงจัดเสวนา เรื่อง “บริหารจัดการกากอุตสาหกรรมอย่างไร ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม” ในวันที่ 25 ตุลาคม 2564 เวลา 09.20 – 13.00 น. ณ ห้องประชุม 301 กรมควบคุมมลพิษ ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ ผศ. ดร.บุญส่ง ไข่เกษ สมาชิกวุฒิสภา ผู้แทนกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม)

ถกปัญหาจัดการกากอุตสาหกรรมไม่ให้กระทบสวล.

 

นายธีระพล ติรวศิน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ผู้ประกอบการรีไซเคิล และกำจัดกากอุตสาหกรรม) นายครรชิต เข็มเฉลิม คณะทำงานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านจังหวัดฉะเชิงเทรา (ทสม.) และ นางเพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ เข้าร่วมการเสวนาในครั้งนี้ ดำเนินรายการโดย นางสาวอรอุมา เกษตรพืชผล มีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดการเสวนา ทั้งนี้ ประชาชนสามารถรับชมและร่วมแสดงความคิดเห็นได้ผ่านช่องทางเฟสบุ๊คแฟนเพจกรมควบคุมมลพิษ

คพ. ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหามลพิษจากการจัดการกากอุตสาหกรรมที่ไม่ถูกต้อง จากข้อจำกัดในด้านต่างๆ ซึ่งโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นแหล่งกำเนิดอยู่เป็นจำนวนมาก การเชื่อมโยงข้อมูลกากของเสียอันตราย ผู้ประกอบการขนส่งบำบัดและกำจัดยังไม่เพียงพอต่อปริมาณกากอุตสาหกรรมอันตรายที่เกิดขึ้น และการทับซ้อนของอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่กำกับดูแลและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวให้ประชาชนรับทราบ จึงจัดเวทีกลางในการเสวนาร่วมกัน ระหว่างผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐที่เป็นผู้กำหนดนโยบาย ผู้ประกอบการ ภาคเอกชน และเครือข่ายภาคประชาชนที่เกี่ยวข้องและได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว นายอรรถพล กล่าว