รัฐเติมเงิน"คนละครึ่งเฟส 3 บัตรคนจน ยิ่งใช้ยิ่งได้" ได้รับเพิ่มกันเท่าไร

20 ต.ค. 2564 | 08:05 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ต.ค. 2564 | 18:08 น.
11.7 k

รัฐเติมเงินเพิ่ม 4 มาตรการลดค่าครองชีพ “คนละครึ่งเฟส 3 - บัตรสวัสดิการฯ – ยิ่งใช้ยิ่งได้ -กลุ่มต้องการความช่วยเหลือพิเศษ” พ.ย.-ธ.ค. 64 ได้รับเพิ่มกันเท่าไร สรุปที่นี่

มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม. )เมื่อวันที่ 19 ต.ค.64 อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมรวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท เพื่อส่งเสริม 4 มาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง ในช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค. 64 ดังนี้

1.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน ) ระยะที่ 3 ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าเพิ่มเติมอีก 300 บาท/คน/เดือน เป็นเวลา 2 เดือน (พ.ย. - ธ.ค. 64) รวมเป็น 500 บาท/เดือน 

2.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าเพิ่มเติมอีก 300 บาท/คน/เดือน เป็นเวลา 2 เดือน (พ.ย. - ธ.ค. 64) รวมเป็น 500 บาท/เดือน 

3.โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 เพิ่มวงเงินสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าและบริการ อีก 1,500 บาท/คน โดยสามารถใช้จ่ายได้ในเดือน พ.ย. – ธ.ค. 64 

4.โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ โดยปรับหลักเกณฑ์การคำนวณรับ e-Voucher ได้สูงสุดถึง 10,000 บาท/คน จากเดิมไม่เกิน 7,000 บ./คน ในเดือน พ.ย. – ธ.ค. 64 จำนวน 1 ล้านสิทธิ

เพิ่มกำลังซื้อ"บัตรคนจน-กลุ่มเปราะบาง" งบ 9.5 พันล้าน

 

ทั้งนี้ในส่วนการเพิ่มกำลังซื้อผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  ( บัตรคนจน )และกลุ่มผู้ต้องความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (กลุ่มเปราะบาง) ครม.ได้อนุมัติงบกว่า 9.5 พันล้านบาท  โดยเป็นโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 จำนวน 8,122 ล้านบาท และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ จำนวน 1,383 ล้านบาท งบประมาณภายใต้ พ.ร.ก. กู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ.2564

โดยทั้ง 2 โครงการจะได้รับวงเงินเพิ่มเติมจำนวน 300 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่พ.ย. – ธ.ค. 2564 เพื่อช่วยเหลือเป็นค่าซื้อสินค้า

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของทั้ง 2 โครงการมี ดังนี้ 

  • 1.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 มีกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้มีบัตรสวัสดิการสวัสดิการแห่งรัฐไม่เกิน 13.54 ล้านคน (ข้อมูล ณ 1 ก.ย. 64) 
  • 2.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ จำนวนไม่เกิน 2.31 ล้านคน (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ก.ค. 64)