ประกันรายได้ 5 พืช ปี3 สรุปวิธี เช็กสถานะเกษตรกร ระหว่างรอ ครม.ไฟเขียว
ประกันรายได้ 5 พืช ปี3 “ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน” ตรวจสอบ เช็กสถานะเกษตรกร ในช่องทางต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อม ระหว่างรอ ครม.ไฟเขียว ลุ้นรับเงิน “ประกันราคา” สูงสุด
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรปี 3 ตามนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายใต้การดำเนินงานของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้เตรียมความพร้อมโครงการประกันรายได้ โดยกระทรวงพาณิชย์ รับผิดชอบสินค้าเกษตร 4 รายการ คือ ข้าวเปลือก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน และ มันสำปะหลัง ส่วนยางพารา นั้นเป็นความรับผิดชอบของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งก็ให้เดินหน้าไปพร้อมกัน
ทั้งนี้เกษตรกรสามารถตรวจสอบ เช็กสถานะเกษตรกร ในช่องทางต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อม ระหว่าง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชงเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ล่าสุดที่เพิ่งอนุมัติก็ประกันรายได้ข้าว ยังเหลือ “ยางพารา” ชนิด เดียว
ส่วน ที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็น "ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน" ผ่านคณะกรรมการนโยบาย แต่ละชนิดพืชไปเรียบร้อยแล้ว และเชื่อว่าในเร็วๆ นี้ คาดไม่เกินเดือนกันยายน ประกันรายได้เกษตรกร ประกันราคาสินค้าเกษตร 5 พืช จะผ่านครม. ไปอย่างไม่น่ามีปัญหา
วิธีการตรวจสอบสถานะเกษตรกร ง่ายเพียงคลิกเดียว
1. แอปพลิเคชัน "เกษตรดิจิทัล" หรือ Digital Farmer ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android โดย Google Play คลิกที่นี่ หรือ App Store - Apple คลิกที่นี่
2. เกษตรกรด้านพืช ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกร กับ กรมส่งเสริมการเกษตร ตรวจสอบสถานะได้ที่นี่ คลิก
3. เกษตรกรชาวสวนยาง ที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย สามารถตรวจสอบสถานะได้ที่นี่ คลิกที่นี่
วิธีตรวจสอบสถานะเกษตรกร ใน 3 ช่องทางดังกล่าว เมื่อเข้าไปแล้วให้กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ง่ายๆ เพียงเท่านี้ก็จะทราบสถานการณ์ขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้ว
สินค้าที่รัฐบาลมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกร "ประกันราคา" มีทั้งหมด 5 พืช
อนึ่ง “นโยบายประกันรายได้เกษตรกร” ได้ถูกบรรจุให้เป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลนับว่าเป็นนโยบายสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรทั่วประเทศ ครอบคลุมพืชเศรษฐกิจสำคัญ 5 ชนิด ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน, ข้าว, ยางพารา, มันสำปะหลัง และข้าวโพดแล้ว ที่สำคัญ นโยบายนี้ ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอีกด้วย