“คมนาคม” สั่งกพท.ทำโรดแมป-กู้ซอฟท์โลน ฟื้นสายการบิน

12 ส.ค. 2564 | 14:07 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ส.ค. 2564 | 21:17 น.

“คมนาคม” สั่ง กพท.เร่งทำโรดแมป อุ้มสายการบิน เหตุโควิดระบาดหนักต่อเนื่อง ตรึงนโยบายช่วยเหลือ-กู้ซอฟท์โลน เล็งถอดบทเรียนภูเก็ต หวังขยายโครงการแซนด์บ็อกซ์ในจังหวัดอื่น รับนักท่องเที่ยว

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ครั้งที่ 8/2564 ว่า ที่ประชุมได้ติดตามผลการดำเนินงานโดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมด้านการบินของประเทศในระยะสั้นเพื่อรองรับการฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติและแผนระยะยาวเพื่อพัฒนาระบบการบินของไทยมุ่งสู่ความเป็นศูนย์กลางทางการบินกลับมาเป็นปกติในช่วง 2 – 4 ปีข้างหน้า 

 


ขณะเดียวกันตามข้อมูลการคาดการณ์ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เพื่อวางแผนระยะสั้นและแผนระยะยาวให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการบินสามารถเตรียมพร้อมรับโอกาสทางเศรษฐกิจเมื่อการบินกลับมาเป็นปกติได้ทันและการเดินหน้าพัฒนาระบบการบินทุกมิติเพื่อให้ไทยสามารถรักษาสถานะความเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศของภูมิภาคและพร้อมเป็นศูนย์กลางสำคัญของโลกในระยะยาวการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19

นายศักดิ์สยาม  กล่าวต่อว่า  กบร. ยังคงตรึงนโยบายให้ความช่วยเหลือสายการบินในช่วงวิกฤต โควิด-19 ต่อไปอีกจนถึงสิ้นปี 2564 และคาดว่าจะขยายมาตรการช่วยเหลือต่อไปอีกหากสถานการณ์ยังไม่ฟื้นตัวในปี 2565 เบื้องต้นได้สั่งการให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลผลกระทบต่อโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศที่อาจเกิดขึ้น จากกรณีที่สายการบินประสบสภาวะวิกฤตและยังไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างเพียงพอจนบางรายอาจไม่สามารถประคับประคองให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ จึงให้ กพท. เป็นเจ้าภาพดำเนินการโดยร่วมกับสายการบินจัดทำรายงานการวิเคราะห์และความจำเป็นที่สายการบินจะต้องได้รับความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะวงเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) ที่สายการบินร้องขอความช่วยเหลือในขณะนี้ รวมถึงการหารือร่วมกับผู้ประกอบการทุกภาคส่วนเพื่อปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากที่สุด

 


ด้านกพท. รายงานว่าภายในเดือนสิงหาคมนี้จะเป็นเจ้าภาพร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมการบินหารือครั้งใหญ่เพื่อรับฟังปัญหา จัดทำแนวทางกำหนด Roadmap และเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมการบินของไทยผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ และเตรียมความพร้อมด้านการบินของประเทศทั้งระยะสั้นและระยะยาวร่วมกันเพื่อรองรับการฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะการบินที่ปกติ

 

“ส่วนการติดตามผลการประเมินสถานการณ์สำหรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์  เราได้สั่งการเน้นย้ำการให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และให้กพท. วางแผนจัดทำมาตรการด้านการบินที่รัดกุมไปพร้อมกับการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อรองรับหากเกิดการขยายโครงการแซนด์บ็อกซ์ ไปยังจังหวัดอื่น ๆ โดยให้ถอดบทเรียนที่เกิดขึ้นจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์  ทั้งนี้ให้กพท.  ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการและจังหวัดต่าง ๆ จะประชุมหารือในเดือนสิงหาคมนี้เพื่อประเมินผลการดำเนินงานและการจัดการด้านการบินที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง หลังมีการขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) ครอบคลุม 29 จังหวัด”
 

นายศักดิ์สยาม  กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าการเปิดใช้สนามบินเบตง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยและการจัดตั้งเครื่องอำนวยความสะดวกสำหรับสนามบิน หากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญและสนามบินได้รับอนุมัติ/อนุญาตในเรื่องที่เกี่ยวข้องสมบูรณ์แล้ว คาดว่า กพท.จะพิจารณาออกใบรับรองสนามบินสาธารณะให้สนามบินเบตงได้ในเดือนกันยายน 2564 เบื้องต้นมีสายการบินนกแอร์ที่เสนอแผนทำการบินแบบเช่าเหมาลำแล้วและอาจจะเริ่มทำการบินเมื่อสนามบินเปิดใช้งาน โดยเป็นเที่ยวบินเชื่อมต่อจากสนามบินหาดใหญ่และเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ กบร. ได้เน้นย้ำให้ กพท.และสายการบินที่สนใจ ศึกษา วางแผนความต้องการเดินทางของผู้โดยสารในเส้นทางที่จะใช้สนามบินเบตงอย่างรัดกุม เพื่อให้สนามบินสามารถมีจำนวนผู้ใช้บริการตามเป้าหมายและประกอบกิจการได้ในระยะยาว

 

 

ทั้งนี้กบร.ได้ติดตามและเร่งรัดให้ กพท. เร่งดำเนินการเพื่อจัดทำหลักเกณฑ์การอนุญาตโดรนขนาดใหญ่ (น้ำหนักเกิน 25 กิโลกรัมขึ้นไป) ที่มีวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อการเกษตรซึ่งเริ่มมีผู้ยื่นขออนุญาตเข้ามาเป็นจำนวนมาก และได้รับรายงานว่าขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วและเตรียมนำเสนอตามขั้นตอน คาดว่า กบร. จะสามารถพิจารณาให้ความเห็นชอบได้ภายในการประชุมครั้งหน้า (เดือนกันยายน 2564)

 

 

อย่างไรก็ตาม กพท.ได้รายงานความคืบหน้าในการพัฒนางานด้านการบริหารข่าวสารการบินของประเทศ   เพื่อก้าวเข้าสู่ระบบการบริหารข่าวสารการบินที่เชื่อมโยงกับระบบข้อมูลข่าวสารการบินได้ทั้งระบบทั่วโลก (SWIM หรือ System-Wide Information Management) ซึ่งจะทำให้ระบบการเดินอากาศของประเทศไทยพัฒนาไปอีกขั้นตามแผนการเดินอากาศสากลของ ICAO และของภูมิภาค ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการเปิดให้นิติบุคคลเข้ายื่นขอรับการรับรองเป็นผู้ให้บริการข่าวสารการบิน (Aeronautical Information Service Provider) แทน กพท. พร้อมการเตรียมการด้านอื่น ๆ เพื่อยกระดับงานข่าวสารการบินของไทยให้เป็นระบบดิจิทัลทั้งหมดสำหรับรองรับการพัฒนาระบบการเดินอากาศของประเทศในอนาคตอันใกล้