ลุ้น ครม.ไฟเขียว เพิ่มเด็กดื่มนมโรงเรียน อนุบาล-ม.3 กินทุกวัน

 

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ รองปลัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 7/2564 ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผ่านระบบออนไลน์ ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน มีมติเห็นชอบแนวทางการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และมีมติเห็นชอบโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนครบทุกวัน และโครงการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1 – 3) ครบทุกวัน โดยเตรียมดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน มีนโยบายสนับสนุนโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนให้นักเรียนได้ดื่มนมครบ 365 วัน รวมถึงขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-3) ให้ได้ดื่มนมเพิ่มขึ้นด้วย จากการประชุมคณะกรรมการบริหารการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและการแก้ไขปัญหาภาคเกษตร ได้พิจารณาโครงการดังกล่าวแล้ว และได้เห็นชอบในหลักการเพื่อจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป

 

ภาพรวมของทั้ง 2 โครงการฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กและเยาวชนไทยได้ดื่มนมมากขึ้น เพื่อเป็นการเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง มีภูมิคุมิกันเข้มแข็ง ลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในการซื้อนมคุณภาพดีให้แก่เด็กและเยาวชนไทย อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมให้สามารถจำหน่ายน้ำนมดิบเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรปรับตัวและลดผลกระทบจากเขตการค้าเสรี (FTA) ได้อีกทางหนึ่ง

 

“สำหรับเป้าหมายโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนครบทุกวัน ตั้งเป้าให้นักเรียนระดับชั้นก่อนประถมศึกษาจนถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวนกว่า 7 ล้านคน ได้ดื่มนมจากโครงการฯ วันละ 1 กล่อง จากเดิมได้ดื่ม 260 วันต่อปี เพิ่มขึ้น เป็นเวลา 365 วันต่อปี และโครงการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1 – 3) ครบทุกวัน ตั้งเป้าให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-3) ได้ดื่มนมจากโครงการฯ วันละ 1 กล่อง ตลอดทั้งปี ซึ่งถ้าทั้งสองโครงการได้รับการอนุมัติ ก็จะสามารถดำเนินการได้เลยในปีการศึกษา 2565” นายระพีภัทร์ กล่าว

 

ด้านนายนัยฤทธิ์ จำเล ตำแหน่ง ประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า เป็นไปตามที่ชุมนุมฯ ขอไว้ ในการทำให้เด็กได้ดื่มนมครบ 365 วัน ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แนะนำกับปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าในการเสนอให้ขอพ่วงเด็กเพิ่มขึ้นจนถึง ม.3  วันนี้ก็ต้องขอขอบคุณทางท่านรัฐมนตรีเป็นอย่างสูง คาดว่าจะเข้า ครม.ประมาณกลางกันยายน

 

“อยากจะฝากความหวังไปยังรัฐบาล ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และยิ่งอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด ถ้าเป็นไปได้ชาวโคนมและนักเรียน ได้ดื่มนมแล้วก็นักเรียนทุกคนตามเป้า ก็เป็นผลดีกับเกษตรกร และนักเรียน ได้ดื่มนม ถ้าเป็นไปได้ให้เราจะมุ่งเน้นเลยว่าผลิตนมให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้น ทำให้ดี สมกับรัฐมนตรีและรัฐบาลไว้วางใจจะต้องทำให้ดี”

 

นายนัยฤทธิ์ กล่าวว่า  เราไม่ได้หวังจะได้ และกอบโกยอย่างเดียว ต้องทำเพื่อลูกหลานของเรา และเพื่ออนาคตเกษตรกร ต้องทำให้ดี และทุกวันนี้จากการพัฒนามา 5-6 ปี ผมว่าระบบนมโรงเรียนเปลี่ยนแปลงไปเยอะ จากก่อนมีข่าวนมเน่าบูด เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วเพราะมีมาตรการในระบบ อย. กรมปศุสัตว์ รวมถึงทุกภาคส่วนได้มาร่วมปรับปรุงใหม่ และวันนี้เป็นโอกาสที่จะต้องพิสูจน์ตัวของเกษตรกรและผู้ประกอบการ 93 ราย ต้องทำให้ดีที่สุด

อนึ่ง โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน เกิดขึ้นปี 2535 ในสมัยรัฐบาล นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี โดยปีแรกรัฐบาลจัดงบประมาณนมโรงเรียนให้แก่เด็กนักเรียนอนุบาล เป็นเงิน 278.60 ล้านบาท ดื่มนมรวม 120 วัน 

 

ต่อมาได้เพิ่มจำนวนเด็กนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่4 เพิ่มจำนวนวันซื้อนมในโครงการ เป็น 230 วัน และ ในปี 2552 ขยายชั้นนักเรียนที่ได้รับงบประมาณนมโรงเรียนจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่6 และเพิ่มระยะเวลาของโครงการเป็น 260 วัน มีเด็กนักเรียน รวมประมาณ 7.1 ล้านคน เมื่อรวมกับเด็กในสถานศึกษาเอกชน เป็น 8.4 ล้านคน

สำหรับการจัดทำสัญญาการรับมอบอำนาจระหว่างผู้ประกอบการ ระหว่าง อ.ค.ส. กับผู้ประกอบการนมที่ได้รับจัดสรรสิทธิ ในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปี 2564 ทั้งหมด 93 ราย