จะสั่นคลอนวงการแค่ไหน เมื่ออเมริกาจะเอาจริง!! เรื่องการแบน TikTok

19 พ.ค. 2567 | 13:56 น.
อัปเดตล่าสุด :19 พ.ค. 2567 | 13:58 น.

จะสั่นคลอนวงการแค่ไหน เมื่ออเมริกาจะเอาจริง!! เรื่องการแบน TikTok : ผู้นำวิสัยทัศน์ นางสาวกมลธิดา พรรณพิพัฒน์ Corp communication: IPG Mediabrands

TikTok แพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั้งจำนวนของผุ้ใช้งาน เนื้อหาที่มีความหลายหลาย รวมทั้งยังสามารถซื้อ-ขายสินค้าอีกด้วย แต่ก็มีข่าวมาอย่างต่อเนื่องในการพยายามที่จะแบน TikTok จากหลายๆประเทศ

เนื่องจากผู้ให้บริการ TikTok นั้นคือบริษัท ByteDance ซื้อเป็นบริษัทของประเทศจีนซึ่งหลายๆประเทศมีความกังวลเรื่องการเข้าถึงข้อมูลของประชากรผู้ใช้งานจากทางรัฐบาลของจีน ที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลกับบริษัทของประเทศตัวเองได้ ทำให้รัฐาลของสหรัฐอเมริกาเกิดข้อกังวลด้านความมั่นคงของชาติโดยปัจจุบันยอดผู้ใช้งานในประเทศสหรัฐอเมริกามีอยู่ราวๆ 170 ล้านคน หรือเรียกได้ว่าเกินครึ่งประเทศ

และดูเหมือนครั้งนี้สหรัฐอเมริกาจะเอาจริง!! เพราะได้มีการ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ โดยมีการทำมติผ่านร่างกฎหมายฉบับใหม่ที่อาจมีผลในการแบนแอปพลิเคชัน TikTok ในสหรัฐฯ ได้ ในช่วงตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา หากร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านการโหวตรับรองในวุฒิสภาและกลายเป็นกฎหมาย จะส่งผล Application ที่พัฒนาโดย ByteDance บริษัทในเครือจะต้องขายกิจการหรือแยกตัวจากแอปนั้นภายในระยะเวลา 180 วัน

หากไม่ดำเนินการสิ่งที่ตรงไปตรงมาที่สุดที่สหรัฐฯ จะสามารถทำได้คือการลบ TikTok ออกจาก App Store สำหรับอุปกรณ์ iOS และ Play Store สำหรับอุปกรณ์ Android และห้ามมีการดาวน์โหลดแอปฯ ลงในโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต จะทำให้ผู้ใช้รายใหม่ไม่สามารถติดตั้ง TikTok ได้ และผู้ที่มีแอปฯ ในเครื่องอยู่แล้วจะไม่สามารถอัปเดตเวอร์ชันใหม่ได้อีกต่อไป

จะสั่นคลอนวงการแค่ไหน เมื่ออเมริกาจะเอาจริง!! เรื่องการแบน TikTok

ซึ่งจะทำให้มีอุปสรรคต่อการใช้งานไปเรื่อยๆ โดยหากฝ่าฝืน ผู้ให้บริการ App Store อาจเผชิญโทษปรับเป็นจำนวนสูงถึง 5,000 ดอลลาร์ต่อจำนวนผู้ใช้งานแอป TikTok 1 คน หมายความว่าทั้ง Apple และ Google อาจถูกปรับเงินสูงสุดถึงบริษัทละ 8.5 แสนล้านดอลลาร์

แต่การขาย TikTok ซึ่งตอนนี้ถูกประเมินว่ามีมูลค่าในตลาดสูงถึง 2.68 แสนล้านดอลลาร์ โดยเงินจำนวนนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีบริษัทหรือนักลงทุนที่สามารถซื้อได้ และการทำข้อตกลงซื้อขายกับบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ต่างๆ หากมองไปถึงบริษัทที่ด้านเทคโนโลยีและมีความสามารถในการซื้ออย่าง Google นั้น

อาจเผชิญอุปสรรคจากกฎหมายต่อต้านการผูกขาด และ Meta เองก็คงไม่สนใจดีลมูลค่าอันมหาศาลขนาดนี้ เพราะถ้าไม่มี TikTok บริษัท Meta เองก็สามารถกำจัดคู่แข่งคนสำคัญไปได้ อีกทั้งการขาย TikTok จะต้องได้รับอนุญาตจากจีน ซึ่งรัฐบาลจีนแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการบีบบังคับของสหรัฐฯ เพื่อให้ขายกิจการ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐพยายามที่จะแบน TikTok ในช่วงแรกในการเข้ามาของ Application TikTok นั้น สหารัฐฯมีการสั่งห้ามพนักงานและบุคคลากรของรัฐบาลไม่ให้มีการดาวน์โหลด Application เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลของทางการ โดยสิ่งที่จะเกิดขึ้นอันใกล้นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงต่อการดำเนินกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯอย่างแน่นอน

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,992 วันที่ 16 - 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2567